ราคาหุ้น KCE ร่วงต่อ 4.95% ผิดหวังกำไรปี 65 ลดลง โบรกแนะซื้อลงทุน 6 เดือนขึ้นไป
โบรกยังรอจับตามองยอดขาย KCE ในยุโรปในไตรมาส 1/66 หากงบไตรมาส 4/65 เป็นจุดต่ำสุด คาดเป็นจุดเปลี่ยนการลงทุนของงบ KCE ได้ แนะยังเข้าซื้อลงทุนระยะ 6 เดือนขึ้นไปได้ หลังราคาหุ้นย่อลงต่อ ช่วงบ่ายวันนี ร่วง 4.95% ผิดหวังกำไรปี 65 ลดลง พ่วงปัจจัยลบเงินบาทแข็งค่า
ในช่วงบ่ายวันนี้ (8 ก.พ.) ราคาหุ้น บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE ปรับลดลงต่อเนื่องจากวันก่อนหน้า หลังจากนักลงทุนผิดหวังกำไรปี 2565 ลดลง รวมถึงปัจจัยลบเงินบาทแข็งค่ากดดัน และมีโอกาสที่โบรกเกอร์จะทบทวนประมาณการ หลังร่วมประชุมนักวิเคราะห์วานนี้
ราคาหุ้น KCE ล่าสุด ณ เวลา 14.30 น. อยู่ที่ระดับ 48.00 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 4.95% สูงสุดที่ระดับ 50.25 บาท ต่ำสุด ที่ระดับ 47.75 บาท มูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 2.31 พันล้านบาท
ทั้งนี้ราคาหุ้น KCE ปรับตัวลง หลังรายงานตัวเลขกำไรสุทธิปี 2565 มีกำไร 2.32 พันล้านบาท ลดลง 4% จากปีก่อนมีกำไรสุทธิ 2.43 พันล้านบาท เนื่องมาจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริการเพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นตามยอดขาย ได้แก่ ค่าระวาง ค่าขนส่ง ค่าประกันภัยสินค้า และค่านายหน้า
อีกทั้ง รายการหลักที่เพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายบริหาร ประกอบด้วยค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน รวมถึงสำรองผลประโยชน์พนักงานที่ปรับเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายในการวิจัยพัฒนา และผลขาดทุนตามราคาตลาดจากเงินทุน เป็นต้น
'ณัฐพล คำถาเครือ' ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) มองว่า ราคาหุ้น KCE ที่อ่อนตัวลง สามารถซื้อลงทุนระยะ 6 เดือนขึ้นไปได้ เพราะผลประกอบการ ไตรมาส 2 ปี 2566 น่าจะมีโอกาสฟื้นตั ราคาเป้าหมาย 63.00 บาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า มีมุมมองเชิงลบต่อกำไร ไตรมาส 4 ปี 2565 ของ KCE ที่ 500 ล้านบาท ลดลง 29% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และลดลง24% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 548 ล้านบาท และ 650 ล้านบาท
เพราะ GPM ต่ำกว่าคาด ทั้งกำไรปกติ 576 ล้านบาท ลดลง 8% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อนและลดลง 6% เมื่อเทียบไตรมาสก่อนหน้า เพราะปริมาณขายจึงลดลง ส่งผลต่อ GPM รวมทั้งผลกระทบของต้นทุนวัสดุที่สิ้นเปลือง น้ำยาเคมี ค่าไฟ ค่าแรงที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจมีการทบทวนประมาณการ หลังจากร่วมประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ โดยราคาหุ้น KCE ปัจจุบันปรับลดลงต่ำกว่า แต่ปัจจุบันยังคงราคาเป้าหมาย ให้ไว้ที่ 49 บาท
"เพลินใจ จิระจรัส" ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน และปัจจัยพื้นฐาน บล.โนมูระ พัฒนสิน มองว่า เราคาดไตรมาส 1 ปี 2566 กำไรปกติลดลงเมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อนและเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จากความกังวลเศรษฐกิจยุโรป ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมอยู่บ้าง และคาดทั้งปี 2566 กำไรสุทธิลดแต่ตลาดคาดโต
"ปัจจัยลบดังกล่าวซีอีโอค่อนข้างระมัดระวังต่อผลกระทบต่อการดำเนินงานในไตรมาส 4 ปีก่อนอยู่แล้ว และได้สะท้อนในงบไตรมาส 4 ปีก่อนทั้งหมดแล้ว ขณะที่ในเดือนม.ค. และเดือนก.พ. นี้น่าจะเริ่มมียอดขายกลับมาได้ แต่อีกมุมหนึ่ง เรายังมีความกังวลในแง่ของดีมานด์อาจลดลง จากภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่จะส่งผลกระทบต่อลูกค้าในยุโรป ยังต้องรอจับตายอดขายในยุโรปในจะแย่ต่อเนื่องหรือไม่ แต่หากงบไตรมาส 4ปีนี้ เป็นนี้เป็นจุดต่ำสุด อาจเป็นจุดเปลี่ยนของงบ KCE ได้เช่นกัน"