“หุ้นไทย” พุ่ง 41.11 จุด จาก Bank Run สหรัฐดีขึ้น แนะจับตา "ECB" อาจขึ้นดอกเบี้ย
“ตลาดหุ้นไทย” ปิดตลาดอยู่ที่ 1,565 จุด เพิ่มขึ้น 41.11 จุด หรือ 2.70% “บลจ.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์” ชี้ รีบาวด์เพราะเมื่อวานย่อตัวลงเยอะ กอปรกับสถานการณ์แบงก์รันในสหรัฐดีขึ้น คาดหุ้นไทยอยู่ในเทรนด์ฟื้นตัว แนะจับตาธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย
ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาด “หุ้นไทย” วันนี้ผันผวนในทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้นตลอดทั้งวัน ซึ่ง ดัชนีตลาดหุ้นไทยทำจุดสูงสุดอยู่ที่ 1,573.51 จุด และต่ำสุดอยู่ที่ 1,543.61 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1,565 จุด เพิ่มขึ้น 41.11 จุด หรือ 2.70% มูลค่าซื้อขาย 69,699.13 ล้านบาท
หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่
1. AOT มูลค่า 3,650.41 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 70.75 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท หรือ 6.79%
2. KBANK มูลค่า 3,075.21 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 131.50 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท หรือ 3.95%
3. PRTP มูลค่า 2,685.62 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 10.10 บาท เพิ่มขึ้น 2.90 บาท หรือ 40.28%
4. CPALL มูลค่า 1,969.49 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 61 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 2.09%
5. DELTA มูลค่า 1,956.55 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 974 บาท 40.00 บาท หรือ 4.28%
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ กล่าวว่า วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยรีบาวด์กลับขึ้นมาเนื่องจากสถานการณ์แบงก์รันในสหรัฐอเมริกาปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น หลังจากที่เมื่อวานนี้ (14 มี.ค.) ร่วงแรงเกือบ 50 จุด ประกอบกับเมื่อวานนี้มีการ Force Sell และ Short Sell ครบชุด
อย่างไรก็ตามวันพรุ่งนี้ (16 มี.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยอาจแกว่งในลักษณะนิ่งๆ อยู่ในเทรนด์ฟื้นตัว ด้วยแนวรับ 1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600 จุด โดยมีแรงกดดันที่ต้องติดตามคือ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งเป็นผลพวงจากเหตุการณ์การล่มสลายของ 3 ธนาคารของสหรัฐ
สำหรับ แนวทางการลงทุนวันพรุ่งนี้ควรทยอยสะสมหน้าหุ้นที่ปรับตัวลงมาในช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น AOT SCB KBANK SCG GPSC WHA และ BEM เป็นต้น
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์