ก.ล.ต. แนะผู้ถือหุ้นRAM ไปประชุมผู้ถือหุ้น หลังIFA ชี้ไม่ควรอนุมัติปล่อยกู้ให้F&S
ก.ล.ต. ขอให้ผู้ถือหุ้น RAM ศึกษาข้อมูล-ไปใช้สิทธิออกเสียงประชุมสามัญผู้ถือหุ้น 28 เม.ย. กรณีวาระพิจารณาให้สัตยาบันการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน แก่ F&S ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ หลัง IFA ชี้ ผู้ถือหุ้นไม่ควรอนุมัติ เหตุ ผลตอบแทนไม่เหมาะสม
สืบเนื่องจากบริษัทย่อยของบริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน) หรือ RAM หลายแห่ง ได้นำสภาพคล่องส่วนเกินไปให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ F&S ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยให้กู้ยืมในรูปของตั๋วแลกเงินอายุ 1 ปี แบบไม่มีหลักประกัน คิดอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 2.25 – 2.5 ต่อปี รวมเป็นเงิน 480 ล้านบาท
ซึ่งปัจจุบันบริษัท F&S ได้ชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยให้แก่บริษัทย่อยของ RAM แล้ว แต่การทำธุรกรรมดังกล่าวไม่ได้ขออนุมัติผู้ถือหุ้นก่อนทำรายการ ตามประกาศว่าด้วยการทำรายการที่เกี่ยวโยงกันคณะกรรมการบริษัทจึงมีมติให้นำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติการให้สัตยาบันดังกล่าวในวันที่ 28 เม.ย.2566
นอกจากนี้ RAM ยังได้รับความช่วยเหลือทางการเงินจาก F&S จำนวน 1,000 ล้านบาท โดยต้องชำระคืนเมื่อทวงถาม คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.75 – 4.00 ต่อปี ซึ่งปัจจุบัน RAM ได้ชำระหนี้เงินกู้บางส่วนแล้ว และคงเหลือหนี้อีก 200 ล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนดชำระคืนวันที่ 31 ต.ค.2566 นี้
ทั้งนี้ ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) มีความเห็นว่า ผู้ถือหุ้นไม่ควรอนุมัติการให้สัตยาบันในธุรกรรมการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ F&S เนื่องจากอัตราผลตอบแทนที่บริษัทย่อยได้รับไม่เหมาะสม เพราะต่ำกว่าอัตราตลาดและต่ำกว่าต้นทุนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จากสถาบันการเงินของบริษัทย่อย
นอกจากนี้ IFA ได้คำนวณส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยรับและดอกเบี้ยจ่ายเสมือนมีการปล่อยกู้วนในครั้งนี้แล้วพบว่า จะส่งผลให้กลุ่ม RAM ขาดทุนเป็นเงินจำนวน 3.46 ล้านบาท
คณะกรรมการบริษัทเห็นว่า ผลตอบแทนจากการให้กู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.25 – 2.5 ต่อปี ดีกว่าการที่บริษัทย่อยนำไปฝากเงินกับสถาบันการเงินในประเทศที่จะได้รับผลตอบแทนเท่ากับ ร้อยละ 0.40 – 1.35 ต่อปี การปล่อยกู้ดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายลงทุนในขณะนั้น
ทั้งนี้ บริษัทและกลุ่มบริษัทย่อยไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้เกิดกำไรแก่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ดังนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการ RAM ครั้งที่ 8/2566 เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2566 จึงมีมติให้บริษัทย่อยเรียกชำระดอกเบี้ยส่วนต่าง จำนวน 3.46 ล้านบาทคืนจาก F&S ซึ่ง F&S ได้ชำระดอกเบี้ยส่วนต่างคืนแล้วในวันที่ 30 มี.ค. 2566
ก.ล.ต. จึงขอให้ผู้ถือหุ้นศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบและใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นในการรักษาประโยชน์ของตนเอง พร้อมทั้งสอบถามผู้บริหาร RAM ถึงข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้มีข้อมูลครบถ้วนสำหรับประกอบการตัดสินใจออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้นด้วย