HMPRO เผยไตรมาส 1/66 กำไรสุทธิ 1.6 พันล้าน เพิ่มขึ้น 6.6%

HMPRO เผยไตรมาส 1/66 กำไรสุทธิ 1.6 พันล้าน เพิ่มขึ้น 6.6%

“โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์” เผยไตรมาส 1 ปี 66 กำไรสุทธิ 1.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.63% ตามรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของผู้บริโภค ท่ามกลางแรงกดดันของต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ทั้งค่าสาธารณูปโภคและต้นทุนการเงิน

บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO รายงานผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ผลดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2566 มีกำไรสุทธิ 1,611.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.63% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,510.94 ล้านบาท

โดยมีรายได้รวม 18,251.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,579.35 ล้านบาท หรือ 9.47% ประกอบด้วย รายได้จากการขายสินค้า และรายได้จากการให้บริการลูกค้า (Home Service) 17,223.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.28% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ รายได้ค่าเช่า 476.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.08% เป็นผลมาจากการจัดเก็บรายได้ค่าเช่าพื้นที่เช่าในสาขาของโฮมโปรและศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจได้มากขึ้น และรายได้อื่น 551.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.13% เป็นผลมาจากการเพิ่มจำนวนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับคู่ค้าทั้งในช่องทางสาขาและช่องทางออนไลน์

กำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าและการให้บริการลูกค้า (Home Service) มีจำนวน 4,492.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.66% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยอัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขาย เพิ่มขึ้นจาก 25.99% ในปีก่อน มาอยู่ที่ 26.08% ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงส่วนผสมของกลุ่มสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง

สำหรับต้นทุนค่าเช่า มีจำนวน 193.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.47% มาจากต้นทุนค่าสาธารณูปโภคที่เพิ่มขึ้น ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร มีจำนวน 3,192.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.24% อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อยอดขายอยู่ในระดับ 18.54% ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ระดับ 18.21% จากค่าไฟฟ้าและสาธารณูปโภค ค่าใช้จ่ายในการเปิดสาขาใหม่ของเมกาโฮม ค่าซ่อมแซม และค่าใช้จ่ายทางการตลาดและ การส่งเสริมการขาย

มีค่าใช้จ่ายทางการเงิน จำนวน 133.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.44% จากการออกหุ้นกู้ในอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น เพื่อเตรียมชำระหนี้ที่ครบกำหนด

สำหรับการขยายสาขายังคงดำเนินการตามแผน โดยบริษัทฯ มีการเปิดสาขา เมกาโฮมใหม่ 3 สาขา ได้แก่ รัตนาธิเบศร์ บางพลี และติวานนท์ ส่งผลให้สิ้นไตรมาสที่ 1/66 บริษัทฯ มีโฮมโปร 87 สาขา โฮมโปรเอส 5 สาขา เมกาโฮม 21 สาขา และโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย 7 สาขา

อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาส 1/66 บริษัทฯ ยังคงเผชิญแรงกดดันในเรื่องของค่าใช้จ่ายต่างๆที่ เพิ่มสูงขึ้น อาทิ ค่าไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายในการเปิดสาขาใหม่ รวมถึงความผันผวนของตลาดการเงิน ซึ่งส่งผลต่อ อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้มีการควบคุมดูแล วางแผนธุรกิจและกลยุทธ์ที่รัดกุมในด้าน ต่างๆ เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่ปรับตัวสูงขึ้น อาทิ การติดตั้งหลังคา Solar Rooftop ที่สาขาเพิ่มเติม เป็นต้น