ทุน-ต่างชาติขาย |ออฟเรคคอร์ด
และแล้ว SET ลงมาต่ำกว่า 1,500 จุด ให้ได้เห็นในรอบ 2 ปี ทำเอานักลงทุนแตกตื่นใครที่ไม่ทันตั้งตัว “เกิดแพนิกเซลล์” แห่เทขายตามจนสุดท้ายมี รีบาวด์ใหญ่ ภายในไม่กี่ชั่วโมงดับฝันนักลงทุนกันเป็นแถบ
๐๐๐ ทุน-ต่างชาติขาย
และแล้ว SET ลงมา ต่ำกว่า 1,500 จุด ให้ได้เห็นในรอบ 2 ปี ทำเอานักลงทุนแตกตื่นใครที่ไม่ทันตั้งตัว “เกิดแพนิกเซลล์” แห่เทขายตามจนสุดท้ายมี รีบาวด์ใหญ่ภายในไม่กี่ชั่วโมงดับฝันนักลงทุนกันเป็นแถบ
เพราะมีหลายรายรอช่วง ช้อนซื้อ ลุ้นให้หุ้นตกหนักหลุด 1,500 จุด ยิ่งลงหนักแต่ปัจจัยต่างประเทศไม่กระทบมีสิทธิรีบาวด์สูงมาก และเป็นไปตามนัด
การแห่เทขายรอบนี้ตั้งแต่เลือกตั้งมา “ผู้ร้าย” กลายเป็น “ต่างชาติ” ที่ถือว่าเทกระจาดขายต่อเนื่องจนรวมแล้วตั้งแต่ต้นปีไปถึง 80,000 ล้านบาท
ยิ่งช่วงที่เทขายหลังเลือกตั้งเริ่มมี ทฤษฎี ว่าไม่ใช่การขายต่างชาติเท่านั้น ผสม “ทุนไทยอยู่ต่างชาติ” ขายผสมรวมเพื่อดึงเงินในตลาดหุ้นกลับเอากระเป๋าเพื่อความอุ่นเอาไว้ก่อน
รัฐบาลรอบนี้ไม่รู้จะแตะ โครงการ - สัมปทาน ไหนก่อนตามที่จะปฏิรูปตามประกาศเอาไว้เพราะมีจำนวนไม่น้อย และล้วนแต่ “ทุนใหญ่อิงการเมือง” ทั้งนั้น
๐๐๐
ตลาดหุ้นไทยสุดผันผวน ในช่วงเช้าถูกถล่มขายหนักลงไปกว่า 20 จุด จนดัชนีฯ หลุดแนวรับสำคัญ ลงไปต่ำกว่า 1,500 จุด ทำจุดต่ำสุดในรอบ 2 ปี แต่ช่วงบ่ายเริ่มมีแรงซื้อคืน พลิกกลับมาปิดบวกได้สำเร็จ ท่ามกลางความหวังในการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล หลังมีการลงนาม MOU ระหว่างพรรคก้าวไกลกับอีก 7 พรรค ซึ่งไม่ได้มีนโยบายที่ดูสุ่มเสี่ยง สร้างความแตกแยกในสังคม
โดยดัชนีฯ ปิดการซื้อขายที่ 1,529.24 จุด เพิ่มขึ้น 14.35 จุด หรือ 0.95% ระหว่างวันแตะระดับสูงสุดที่ 1,531.01 จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,491.12 จุด มูลค่าการซื้อขาย 55,532.65 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติยังขายต่อ 1,461.33 ล้านบาท พอร์ตโบรกเกอร์ซื้อ 511.13 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อ 2,344.51 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขาย 1,394.31 ล้านบาท
๐๐๐
หุ้นบมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) วอลุ่มนำโด่งมาเป็นเบอร์หนึ่ง ราคาพลิกกลับมาปิดบวก 62 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.40% จากก่อนหน้านี้มีความกังวลว่าเป็นกลุ่มทุนใหญ่ที่จะได้รับผลกระทบจากนโยบายของพรรคก้าวไกล
แต่ในเชิงพื้นฐานยังแข็งแกร่ง โดยนักวิเคราะห์จากบล.ลิเบอเรเตอร์ มองแม้งบฯ ไตรมาส 1 ของ CPALL จะไม่ค่อยหวือหวาเท่าไร แต่จะมีโมเมนตัมดีขึ้นในไตรมาส 2 ทั้งการเติบโตของสาขาเดิมและการขยายสาขาใหม่ๆ ให้ราคาพื้นฐานไว้ที่ 68 บาท
๐๐๐
ส่วนหุ้นบมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) เป็นอีกหนึ่งหลุมหลบภัยที่ดีในช่วงที่ตลาดยังเต็มไปด้วยความผันผวน รับอานิสงส์จากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นปีถึง 15 พ.ค. มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยแล้ว 9.47 ล้านคน ดันราคาหุ้นขึ้นมาปิด 72 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือ 2.49%
๐๐๐
หุ้นนิคมฯ บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) หนึ่งในตัวเต็งเข้าคำนวณในดัชนี SET50 รอบใหม่ ราคาวิ่งขึ้นมาปิด 4.18 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท หรือ 1.95% แถมแนวโน้มธุรกิจปีนี้ยังสดใส ยอดขายที่ดินมีโอกาสทะลุเป้า 1,750 ไร่ ซึ่งบริษัทหวังเซ็นสัญญาขายที่ดินกับผู้ผลิตอีวีเพิ่มอีกอย่างน้อย 2 ราย
๐๐๐
ส่วนความเคลื่อนไหวหุ้นไอพีโอ ล่าสุด ก.ล.ต. ได้เริ่มนับหนึ่งไฟลิ่ง บมจ.บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค (BLC) ซึ่งทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพอย่างครบวงจร โดย BLC มีแผนขายไอพีโอทั้งหมด 150 ล้านหุ้น มีบล.เคจีไอ (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
โดยจะนำเงินที่ได้จากระดมทุนไปก่อสร้างโรงงานผลิตยาแห่งใหม่ เพิ่มกำลังการผลิตอีก 193% นำไปใช้ในการวิจัย จ่ายคืนหนี้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์