'หุ้นไทย' (23 พ.ค.) บวก 5.60 จุด DELTA กดดัชนี แต่อานิสงส์ MOU ก้าวไกล พยุง

ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาด “หุ้นไทย” วันนี้ (23 พ.ค.) ปิดตลาดอยู่ที่ 1,534.84 จุด เพิ่มขึ้น 5.60 จุด หรือ 0.37%  โดยดัชนีตลาดหุ้นไทย ผันผวนในทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงบ่าย ส่วนทางกับแรงเทขายในช่วงเช้า ซึ่งทำจุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,518.38 จุด และสูงสุดอยู่ที่ 1,536.59 จุด มูลค่าซื้อขาย 49,753.88 ล้านบาท

หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่

1. DELTA มูลค่า 3,151.18 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 87.00 บาท ลดลง 5.25 บาท หรือ 5.69%

2. AOT มูลค่า 2,693.89 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 70.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 2.08%

3. KTB มูลค่า 2,220.29 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 19.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท หรือ 3.21%

4. KBANK มูลค่า 1,991.59 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 134.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 1.13%

5. CPALL มูลค่า 1,808.55 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 62.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.40%) 

นายคุณณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า วันนี้ดัชนีฯ ปรับตัวบวก-ลบ สลับกันไป โดยช่วงเช้าปรับฐานลงจากหุ้นบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ DELTA

ส่วนช่วงบ่ายมีแรงซื้อกลับมาจากความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล และพรรคร่วม ประกอบกับประเด็นการขยับเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐคลี่คลายมากขึ้น

ส่วนวันพรุ่งนี้ (24 พ.ค.) ดัชนีฯ มีโอกาสบวกต่อ แต่หากขึ้นไปที่แนวต้าน 1,540 จุดได้ อัพไซด์จะอยู่ในวงจำกัด ส่วนแนวรับประเมินไว้ที่ 1,525 จุด โดยต้องติดตามประเด็นเรื่องการถือหุ้นสื่อของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องรับพิจารณาในอนาคต

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากสถานการณ์เงินบาทที่อ่อนค่า แนะนำลงทุนในกลุ่มที่เกี่ยวกับการส่งออกการเกษตร คือ TFG, GFPT และ TEGH เป็นต้น