STARK ปลดแอก (ชั่วคราว) ระทึกราคาหุ้นรีเทินร์

      ปัญหาของ STARK  มาจากงบการเงินไตรมาส 4 ปี2565 ที่ไม่ปกติจนผู้สอบบัญชีไม่สามารถแสดงความคิดเห็นต่องบการเงินดังกล่าวได้ จนกระทบงบการเงินทั้งปี 2565 ไม่ผ่านผู้สอบบัญชี และได้รับการรับรองจากผู้ถือหุ้นเป็นเหตุทำให้ต้องหยุดพักการซื้อขาย

        ปรากฏการณ์ “ไม่ปกติ” เริ่มทยอยมีสัญญาณออกมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่กรรมการพร้อมด้วยผู้บริหาร โดยมี “ชนินทร์ เย็นสุดใจ”  ในฐานะประธานกรรมการบริษัท และประธานกรรมการบริหาร  ยื่นลาออกถึง 7 คนรวด หลังจากนั้น “ วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ”  ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 เข้ามาคุมสถานการณ์

        จนเป็นที่ว่าถึงความกังขาว่าฐานะการเงินของ STARK มีปัญหาทั้งรายได้ไม่สอดคล้องกับยอดงานในมือ เงินทุนหมุนเวียนที่ใช้มาจากวงเงินกู้จากธนาคาร ขณะที่บริษัทไร้สภาพคล่องแต่มีหนี้สูงจนน่าวิตก  ซึ่งนำไปสู่การตรวจสอบพิเศษ (Special Auditing)ด้วยการตั้งบริษัทผู้สอบบัญชีรายใหญ่เข้ามาคุมสถานการณ์

         ปัญหายังกระทบ และมีผลไปยังเจ้าหนี้ต่อทันที ซึ่งเจ้าหนี้กลุ่มแรก "สถาบันการเงิน" ปล่อยสินเชื่อให้กับธุรกิจซึ่งมีแบงก์ใหญ่ถึง 2 แห่ง ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ จากงบการเงินไตรมาส 1ปี 2566 ทั้ง 2 ธนาคารจำเป็นต้องตั้งสำรองฯ ทันที

         ถัดมา "เจ้าหนี้หุ้นกู้ " ซึ่งมีมูลค่า 9,198 ล้านบาท รวม 5 รุ่น ซึ่งต้องมีการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ เพื่อให้ผ่านอนุมัติ ยกเว้นเหตุผิดนัดชำระที่เกิดจากการส่งงบล่าช้า ซึ่งด้วยสถานการณ์ดังกล่าวทำให้บรรดาเจ้าหนี้หุ้นกู้ “จำเป็น” เห็นชอบให้อนุมัติเพื่อให้เวลาบริษัทไปดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อมีโอกาสได้รับเงินคืน (อาจจะเป็นเพียงบางส่วน)

     สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้หน่วยงานกำกับ ก.ล.ต. สั่งให้ชี้แจง ซึ่งบริษัทจึงได้กำหนดให้ข้อมูลกับผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนที่เกี่ยวข้องวันที่ 30 พ.ค. นี้    ซึ่งก่อนที่จะมีการเปิดซื้อขายชั่วคราวตามกฎเกณฑ์ของ ตลท.

       ตามที่บริษัทได้ คาดว่าจะนำส่งงบการเงินสอบทานประจำปี 2565 ได้ภายใน วันที่ 16มิ.ย. บริษัทจะชี้แจงข้อมูลต่อไปเมื่อผู้สอบบัญชีตรวจสอบแล้วเสร็จ ซึ่งบริษัทจะจัดประชุมเพื่อให้ข้อมูลแก่ผู้ถือหุ้น ผู้ลงทุนและ ผู้ที่เกี่ยวข้อง (Public Presentation) ในวันที่ 30 พ.ค.2566

       ตลาดหลักทรัพย์ฯจะเปิดให้ซื้อขายได้ชั่วคราว เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายได้ก่อนที่หลักทรัพย์ STARK จะถูกหยุดพักการซื้อขายต่อโดยจะเปิดให้ซื้อขายเป็นเวลา1เดือน ระหว่างวันที่ 1 –30 มิ.ย. 2566 ภายใต้ หลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังนี้

            1. ให้หลักทรัพย์STARK ซื้อด้วยบัญชี Cash Balance กล่าวคือ ผู้ซื้อต้องชำระเงินทั้งจำนวนก่อน การซื้อหลักทรัพย์

            2. ขึ้นเครื่องหมาย NC กำกับตลอดระยะเวลาที่ให้มีการซื้อขายหลักทรัพย์ เพื่อเตือนผู้ลงทุนให้ใช้ความ ระมัดระวังในการซื้อขายหลักทรัพย์

            3. กำหนดให้การซื้อขายหลักทรัพย์ STARK ในวันแรก (1 มิถุนายน 2566)1/ มีราคาสูงสุดและต่ำสุด (Ceiling & Floor) ไม่เกินหนึ่งเท่าจากราคาซื้อขายครั้งสุดท้าย

            และ4. ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะไม่นำหลักทรัพย์ STARK มารวมในการคำนวณดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) เมื่อครบระยะเวลาดังกล่าว (คือ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป)

            หลังจากเปิดทำการซื้อขายแล้วหาก STARK ยังไม่สามารถส่งงบการเงินได้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะหยุดพักการซื้อขายหลักทรัพย์ของ STARK โดยขึ้นเครื่องหมาย SP จนกว่าบริษัทจะนำส่งงบการเงิน

            ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่การซื้อขายวันแรก STARK ในวันที่ 1 มิ.ย. 2566 จากราคาสุดท้ายอยู่ที่ 2.38 บาท (28 ก.พ.2566)  ตามเกณฑ์ราคาขึ้น และลงไม่เกิน 1 เท่าตัว ทำให้เปิดมามีโอกาสถูกเทขายลงไปที่ราคาฟลอร์ คือ 0  บาท  และอาจมีแรงเด้งขึ้นมาให้เห็นแต่จะขึ้นไปแตะที่ ซิลลิ่ง 4.26 บาทเป็นไปได้น้อยมาก

 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์