’หุ้นไฟแนนซ์’ รับอานิสงส์ ‘กนง.’เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย
"หุ้นกลุ่มไฟแนนซ์" เด้งรับ กนง.เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย โบรกเกอร์แนะลงทุนเหตุ มีปัจจัยบวกหนุน - กำไรเริ่มฟื้นตัว บล.กสิกรไทย ชี้หุ้นไทยยังไซด์เวย์ดาวน์ รอความชัดเจนทั้งปัจจัยในประเทศ-ต่างประเทศ เน้นหุ้นกลุ่มการเงิน - หุ้นขนาดกลาง - เล็ก
"หุ้นไฟแนนซ์" วานนี้ (31 พ.ค.) ถือว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นเด่น สวนดัชนีหุ้นไทยที่ปรับตัวลง ซึ่งหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเด่น นำโดย บมจ.เน็คซ์ แคปปิตอล (NCAP) เพิ่มขึ้น 5.61% หรือ 0.30 บาท ปิดที่ 5.65 บาท รองมา บมจ. เอสจี แคปปิตอล (SGC) เพิ่มขึ้น 2.91% หรือ 0.06 บาท ปิดที่ 2.12 บาท ,บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) เพิ่มขึ้น 2.76% หรือ 1.50 บาท ปิดที่ 55.75 บาท จากอานิสงส์ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเอกฉันท์ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% มาที่ระดับ 2% และยังไม่ได้ส่งสัญญาณคงดอกเบี้ย
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์กลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ช่วงนี้ฝ่ายวิจัยแนะเลือกลงทุนหุ้นที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัวในระยะสั้น อย่างหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ ที่กำไรเริ่มฟื้นตัว และได้รับผลดีจาก กนง.ปรับขึ้นดอกเบี้ยตามตลาดคาด และยังไม่ส่งสัญญาณที่จะคงดอกเบี้ย โดยหุ้นแนะนำคือ MTC, TIDLOR ,AEONTS สำหรับนักลงทุนที่มีหุ้นในพอร์ตอยู่แล้ว แนะนำถือต่อไป และหาจังหวะทยอยสะสมช่วงตลาดอ่อนตัวที่แนวรับ 1,510-1,530 จุด และขายทำกำไรที่แนวต้าน 1,540-1,545 จุด
นายภาสกร หวังวิวัฒน์เจริญ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส กล่าวว่า แม้การปรับขึ้นดอกเบี้ยจะสร้างแรงกดดันต่อดัชนีหุ้นไทย เนื่องจากทำให้ Market Yild Gap แคบลง และลดแรงดึงดูดฟันด์โฟลว์ไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้น
แต่ยังมีหุ้นที่ได้รับเซนทิเมนต์เชิงบวกจากแนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง และกำไรไตรมาส 3 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ใหญ่ เช่น KTB , BBL , SCB
นายพิชัย ยอดพฤติการ ผู้อำนวยการอาวุโส บล.กสิกรไทย กล่าวว่า บริษัทยังมีมุมมองเป็นกลางต่อการประชุม กนง.รอบนี้ และเชื่อว่านักลงทุนจะรอดูดอทพอท ( Dotplot) ของเฟดในกลางเดือนมิ.ย. เพื่อประเมินแนวโน้มดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปี และความเห็นของ Powell ประกอบกับรอความชัดเจนของการจัดตั้งรัฐบาล
ดังนั้นทำให้ในระยะสั้นช่วงนี้ดัชนีหุ้นไทยยังคงไซด์เวย์ดาวน์ ในกรอบแนวรับ 1,490-1,520 จุด และแนวต้าน 1,535-1,555 จุด เพราะขาดปัจจัยใหม่ ส่วนเรื่องดีลการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐนั้นตลาดรับรู้ไปแล้ว ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจของจีนออกมาอ่อนแอ ส่วนปัจจัยภายในประเทศยังเป็นเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลที่ล่าช้า ส่งผลให้ต่างชาติยังขายหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการลงทุนช่วงนี้แนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นกลุ่มการเงิน นำโดย KTB, TIDLOR รวมถึงหุ้นขนาดกลาง - เล็ก ที่กำไรมีโอกาสเติบโตได้ดีในอนาคต อย่าง BE8 , WARRIX,BBIK, KLINIQ, SNNP
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ผลประชุม กนง. ยังสะท้อนภาคบริโภคในประเทศที่โตดีต่อเนื่อง ถือเป็นเซนทิเมนต์เชิงบวกต่อกลุ่มไฟแนนซ์ ,ค้าปลีก, อาหารเครื่องดื่ม และสินค้าอุปโภคบริโภค
“แม้ว่า กนง. ยังไม่ส่งสัญญาณคงอัตราดอกเบี้ย แต่การปรับคาดการณ์เงินเฟ้อทั่วไปปีนี้ลงเหลือ 2.5% จาก 2.9% และเงินเฟ้อพื้นฐานเหลือ 2.0% จาก 2.4% ประกอบกับความเสี่ยงด้านการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและทิศทางดอกเบี้ยของเฟดที่จะเป็นจุดสูงสุดในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ทำให้เรายังคงมุมมองเดิมว่า กนง. จะเริ่มคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปวันที่ 2 ส.ค. ”
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์