หุ้น STARK ร่วงติดฟลอร์อีกรอบ 'โบรกเกอร์' เตือนเสี่ยงสูง ไม่ควรเข้าไปเก็งกำไร

หุ้นSTARK (20 มิ.ย.66) ราคาหุ้นSTARK ร่วงติดฟลอร์ 'โบรกเกอร์' เตือนเสี่ยงสูง

หุ้น STARK ยังคงได้รับความกดดันเป็นวันที่ 2 เช้าวันนี้ (20 มิ.ย.66) ปรับตัวลงมาติดเพดานการซื้อขายต่ำสุด(ฟลอร์) ที่  20% โดยราคาดิ่งมาอยู่ที่ระดับ 0.04 บาท หรือลดลง 0.01 บาท โบรกเกอร์เตือนเสี่ยงสูงเลี่ยงเก็งกำไร

หุ้น STARK ยังคงได้รับความกดดันเป็นวันที่ 2 หลังจากที่มีการประกาศงบการเงินประจำปี 2565 ออกมา ส่งผลให้เช้าวันนี้ (20 มิ.ย.66) ปรับตัวลงมาติดเพดานการซื้อขายต่ำสุด(ฟลอร์) ที่  20%

ราคาหุ้น STAR ดิ่งมาอยู่ที่ระดับ 0.04 บาท หรือลดลง 0.01 บาท ขณะเดียวกัน หุ้น TOA เช้านี้กลับเขียวสดใส ราคาปรับบวกขึ้นมาได้ระดับ 27.75 บาท หรือบวก 1.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น 5.71%

กราฟแสดงหุ้น STARK สัญญาณเทคนิคบ่งชี้ หุ้น STARK ระยะเวลา 1 เดือน มีแรงขายรุนแรง

 

กรรณ์ หทัยศรัทธา ผู้ช่วยผู้จัดการ บล.ซีจีเอสซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย) ได้เปิดเผยกับกรุงเทพธุรกิจว่า

แรงกดดันหุ้น STARK เป็นวันที่ 2 ที่ปรับตัวลงมากว่า 20% มีด้วยกัน 4 ประการที่หุ้น STARK ยังคงมีความเสี่ยง 

ความเสี่ยงที่ 1 : งบในส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ เพราะฉะนั้นหนี้สินมีมากกว่าทรัพย์สิน ทำให้ขาดทุน ดังนั้นการจะจ่ายคืนหุ้นกู้หรือดำเนินธุรกิจต่อไปเป็นไปได้ยาก และตลาดหลักทรัพย์ได้เข้ามาชี้แจ้งแล้วว่า ต้องทำให้ผู้ถือหุ้นกลับมาเป็นบวกให้ได้ภายใน 3 ปีไม่เช่นนั้นจะถูกเพิกถอน  

ความเสี่ยงที่ 2 : เรื่องการทุจริตเกี่ยวข้องกับบริษัทลูก และมีการเปลี่ยนแปลงบอร์ดชุดเก่าที่ออกไป และล่าสุดได้บอร์ดชุดใหม่เข้ามาบริหาร ซึ่งหนึ่งในทีมบอร์ดชุดใหม่เคยเป็น DSI ที่จะเข้ามาจัดการแก้ไขกับปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง 

ความเสี่ยงที่ 3 : ผู้ถือหุ้นใหญ่สุดคือ วนรัชต์ มีความเข้าไปเกี่ยวข้องกับบริษัท เอเชีย แปซิฟิก ดริลลิ่ง เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (เอเชีย แปซิฟิก)  ซึ่ง เฟ้ลปส์ ดอด์จ มีรายการเข้าไปซื้อทองแดง กับอะลูมิเนียมในการผลิตสายไฟ ซื้อไปเยอะมากในช่วง 2 เดือนสุดท้าย ของปี 2565 ไม่รู้ว่า การเข้าไปซื้อมากๆ แบบนี้สรุปแล้วมีของหรือไม่ ซื้อไปแล้วเงินไปไหน รวมถึง บริษัท อดิศรสงขลา จำกัด และ บริษัท ไทยเคเบิ้ล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด  

ความเสี่ยงที่ 4 : เงินสดในบริษัทที่มี 6 พันล้านบาท ต้องย้ำเตือนกับนักลงทุนว่า เป็นเงินสด ณ สิ้นปี 2565 แต่ ณ ปัจจุบันคือเดือน 6 (มิ.ย.66) ซึ่งไม่สามารถรู้ได้เลยว่า เงิน 6 พันล้านบาท หายไปแล้วหรือยัง ขณะที่อาจมีนักลงทุนบางรายที่เข้าไปซื้อเพราะว่า เงินสดยังมี 5 - 6 พันล้านบาท อาจจะคำนวณผิดไปว่า เงินสดที่มีอยู่ราคาบนกระดานเทรด ยังถูกอยู่สามารถเข้าไปซื้อได้ แต่แท้ที่จริงแล้วไม่สามารถเข้าไปซื้อได้ เพราะเงินสดในขณะนี้อาจจะไม่อยู่แล้วก็ได้ 

 

จึงอยากแนะนำนักลงทุนให้หลีกเลี่ยงไม่ควรเข้าไปเก็งกำไรในทุกกรณี เนื่องจากผู้ถือหุ้นยังติดลบ 

 

วทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หุ้นSTARK ยังคงได้รับผลกระทบและแรงกดดันจากประเด็นเดิมหลังจากที่มีการประกาศงบการเงินประจำปี 2565 ขาดทุนประมาณ 6 พันกว่าล้านบาท บวกกับมีปัญหาหนี้ค่อนข้างเยอะ การกู้เงินมาค่อนข้างมาก ส่งผลให้กระแสเงินสดติดลบ ทำให้กดดัน STARK 

ทั้งนี้ แนะนำนักลงทุนว่า ให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงเพราะยังคงมีปัญหาในตัวกิจการค่อนข้างเยอะ ซึ่งก่อนหน้านี้มีการลาออกของผู้บริหารยกทีม ซึ่งโดยภาพรวมแล้วยังคงดูน่ากลัว แนะนำว่าอย่าไปยุ่งดีกว่า 

"หุ้น STARK มีหนี้ค่อนข้างมาก และกู้เงินเยอะด้วยเช่นกัน ในช่วงที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า STARK ทำธุรกิจมา เงินสดมีการไหลออกตลอด"





พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์