ตลท.ประกาศให้ STARK ขึ้น SP อีกครั้ง ซื้อ-ขายสุดท้าย 30 มิ.ย.นี้
ตลท. แจ้งเตือนนักลงทุนกรณีเปิดซื้อขายหุ้น STARK วันสุดท้ายที่ 30 มิ.ย.66 โดยจะขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) เพื่อสั่งห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์ STARK อีกครั้งตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.66
ตลาดหลักทรัยพ์ฯ ประกาศแจ้งเตือนนักลงทุนกรณีเปิดซื้อขายหุ้น STARK วันสุดท้ายที่ 30 มิ.ย.66 โดยจะขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) เพื่อสั่งห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์ STARK อีกครั้งตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.66 ไปจนกว่าบริษัทจะสามารถดำเนินการแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน จากเหตุส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ และดำเนินการให้บริษัทมีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขายได้ตามปกติ
จากมูลค่าความเสียหายกรณี บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ที่สูงกว่า 3.4 หมื่นล้านบาท โดยมีผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมาก ทำให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เร่งดำเนินการตรวจสอบหาผู้กระทำความผิดและยึดอายัดทรัพย์สินของบริษัทกลับคืนมา
พ.ต.ต. สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบความผิดปกติงบการเงิน STARK กับ กรุงเทพธุรกิจ ว่า DSI อยู่ระหว่างการเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก หลังจากเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2566 ได้มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ,ตำรวจสอบสวนกลาง ,กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ(ปอศ.) ในการกำหนดแนวทางดำเนินการกรณีของ STARK
โดย DSI จะเร่งขอเอกสารเพิ่มเติมจาก STARK และผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเร่งพิจารณาพยานหลักฐาน เรื่องเส้นทางการเงิน เอกสารการจัดซื้อสินค้าต่างๆ ว่ามีหลักฐานครบถ้วนสมบูรณ์ระดับไหน ซึ่งหากได้ข้อมูลครบถ้วนแล้ว ก็จะพิจารณาว่าผู้ที่กระทำผิดมีใครเกี่ยวข้องบ้าง หรือเกี่ยวข้องในระดับใด โดยทาง DSI จะดำเนินการตรวจสอบให้ครอบคลุมทั้งหมด
ทั้งนี้ได้กำหนดว่าภายใน 2 สัปดาห์จากนี้ จะต้องรู้ว่าผู้กระทำผิดมีใครบ้าง ที่อยู่ในข่ายที่ต้องดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา หรือออกหมายจับบางส่วนก่อน
“กรณี STARK มีผู้เสียหายจำนวนมากนั้น ซึ่งเดิมจะต้องใช้เวลาตรวจสอบหลายเดือน ก่อนที่จะรับเป็นคดีพิเศษ แต่จากที่ได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่ายที่ทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะตำรวจสอบสวนกลาง ทำให้ใช้เวลาตรวจสอบเพียง 1 เดือนเท่านั้น แล้วรับเป็นคดีพิเศษ ซึ่งทางDSI เร่งดำเนินการแข่งกับเวลาอยู่ เพราะอยากดำเนินการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด"
- อายัดทรัพย์ได้แล้ว100กว่าล้าน
พ.ต.ต. สุริยา กล่าวว่า ประเด็นที่ DSI มีความกังวล คือ ทรัพย์สินของSTARKที่กลุ่มผู้กระทำผิดมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินออกไปนั้น ซึ่งทางDSI ได้หารือ ก.ล.ต. ว่าจากอำนาจหน้าที่ของก.ล.ต.ในการยึดอายัดทรัพย์นั้น ก.ล.ต.จะเร่งดำเนินการได้อย่างไรบ้าง ซึ่งทางก.ล.ต.ให้ความร่วมมืออย่างดี ในการเร่งดำเนินการในเรื่องดังกล่าวของบุคคลที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ในส่วนของ DSI ได้มีการสืบทรัพย์ และเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2566 นั้นได้มีการยึดอายัดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องเบื้องต้นมูลค่า 100 กว่าล้านบาท แต่การยึดอายัดทรัพย์ภาพรวมทั้งหมดนั้นยังจะต้องเร่งสืบว่ามีทรัพย์อยู่ที่ใดบ้าง โดยผู้ที่มีหลักฐานนั้นอยากให้เข้ามาแจ้งข้อมูลกับทาง DSI เพื่อดำเนินการอายัดทรัพย์ต่อไป
สำหรับมูลค่าความเสียหายจากการทุจริตทรัพย์สินของSTARKเบื้องต้นอยู่ที่ราว 5 หมื่นล้านบาท แต่สุดท้ายแล้วความเสียหายอยู่ที่เท่าไรนั้นยังต้องสืบสวนต่อไป ซึ่งขณะนี้มีผู้ที่ได้รับความเสียหายจากกรณี STARK ทยอยเข้ามาแจ้งความเสียหายและเข้ามาเป็นพยานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
- เปิดสายด่วนแจ้งความเสียหาย
โดยทาง DSI ได้เปิดสายด่วน 1202 เพื่อให้ทางผู้ที่ได้รับความเสียหายกรณีของSTARK สามารถติดต่อแจ้งความเสียหายเข้ามา ซึ่งทาง DSIก็จะให้คำแนะนำกับผู้เสียหายว่าจะต้องเตรียม หรือต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป รวมถึงDSIจะได้ทราบว่ามีผู้เสียหายจากกรณีนี้เท่าไร
ส่วนผู้ต้องสงสัยคดีทุจริตของSTARKนั้น ขณะนี้ทางDSI ก็ยังสามารถติดต่อได้ ซึ่งในกรณี STARK นั้นปัจจุบันผู้ต้องสงสัยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ยังไม่ได้กระทำผิด ซึ่งทาง DSI นั้นเปิดโอกาส และให้ความเป็นธรรมกับผู้ต้องสงสัยให้เข้ามาชี้แจงข้อมูล แสดงหลักฐานต่างๆ แต่หากผู้ต้องสงสัยมีการหลบหนี ก็แสดงว่ายอมรับว่ามีการกระทำความผิด
“จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของเรานั้น กรณีที่มีการทุจริตนั้น ผู้กระทำความผิดนั้นเขาตั้งใจมาโกง มีการเตรียมการมาแล้ว และมีการโอนเงินไปต่างประเทศ ไปซื้อสินทรัพย์ดิจิทัล กว่าเราจะรู้ผ่านมาสักระยะแล้วก็ถือว่าเป็นความท้าทายของเราในการดำเนินการตรวจสอบ”