หุ้นไทยวันนี้ (28 มิ.ย.) ปิดตลาดลบ 11.17 จุด ดิ่ง 8 วันติด จากกรณี 'ประธานสภาฯ'

หุ้นไทยวันนี้ (28 มิ.ย.) ปิดตลาดลบ 11.17 จุด  ดิ่ง 8 วันติด จากกรณี 'ประธานสภาฯ'

ตลาดหุ้นไทย วันนี้ (28 มิ.ย. 66) ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,466.93 จุด ลบ 11.17 จุด หรือ 0.79% “บล.ทิสโก้" ชี้ หุ้นไทยปรับตัวลดลง 8 วันติด คิดเป็น 90 กว่าจุด ต่ำสุดในรอบ 2 ปี 6 เดือนนับจากวันที่ 28 ธ.ค.2563 คาดพรุ่งนี้ลงทดสอบ 1,450 จุด โอกาสรีบาวด์เชิงเทคนิคปริ่ม

ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาด “หุ้นไทยวันนี้” วันนี้ (28  มิ.ย.) ปิดตลาดอยู่ที่ 1,466.93 จุด ลบ 11.17 จุด หรือ 0.79% โดยดัชนี “ตลาดหุ้นไทย”  ผันผวนในทิศทางปรับตัวขึ้น-ลงตลอดทั้งวันก่อนมาปิดตลาดในแดนลบตอนท้าย ซึ่งดัชนีฯ ปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 8 ติดต่อกันรวมแล้วกว่า 90 จุด ซึ่งต่ำสุดในรอบ 2 ปี 6 เดือนนับจากวันที่ 28 ธ.ค.2563  ทั้งนี้ ดัชนีฯ ทำจุดต่ำสุดวันนี้อยู่ที่ 1,465.45 จุด และสูงสุดอยู่ที่ 1,485.89 จุด มูลค่าซื้อขาย 48,884.27 ล้านบาท

 

ภาวะหุ้นไทยวันนี้ (28 มิ.ย. 2566)

หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่

  1. BBL   มูลค่า 3,994.12 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 155.50 บาท ลดลง 6.00 บาท หรือ 3.72%
  2. BDMS มูลค่า 2,105.01 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 27.75 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 0.89%
  3. KBANK มูลค่า 2,104.29 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 127.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 1.16%
  4. PTT มูลค่า 1,699.64 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 31.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลงไปจากราคาปิดก่อนหน้า
  5. SCB  มูลค่า 853.20 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 103.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 2.36%

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า วันนี้ดัชนีฯ ปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 9 ติดต่อกัน รวมแล้ว 90 กว่าจุด สวนทางกับตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 0.2-0.3% ส่วนญี่ปุ่นปรับตัวได้ดีกว่าภูมิภาค

ปัจจัยหลักที่ทำให้หุ้นไทยยังปรับตัวลงต่อในวันนี้คือประเด็นการแย่งชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยที่ยังไม่ได้ข้อยุติในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม วันพรุ่งนี้ (29 มิ.ย.) หรือภายในสัปดาห์นี้ ดัชนีฯ มีโอกาส "รีบาวด์" เพราะตามสถิติแล้วโอกาสที่ดัชนีฯ จะปรับตัวลง 9 วันติดต่อกันแล้วไม่รีบาวด์มีไม่ถึง 2% ดังนั้นจึงมองว่ายิ่งดัชนีฯ ปรับตัวลง ยิ่งมีโอการีบาวด์มากขึ้นเท่านั้น ประเมินแนวรับอยู่ที่ 1,450 จุด ส่วนแนวต้านในช่วง 1,475 - 1,485 จุด

ด้านคำแนะนำในการลงทุนระยะสั้นแนะนำเก็งกำไรหุ้นในดัชนี SET 50 ส่วนระยะยาวแนะนำติดตามปัจจัยการเมืองให้ชัดเจนมากขึ้นก่อน