หุ้น BDMS พุ่งเฉียด 4% นักลงทุนลุ้นโหวตนายกฯ เข้าเก็งกำไร Defensive stock

หุ้น BDMS พุ่งเฉียด 4% นักลงทุนลุ้นโหวตนายกฯ เข้าเก็งกำไร Defensive stock

หุ้น BDMS นักลงทุนเข้าเก็งกำไร ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นปิดตลาด (10 ก.ค.66) อยู่ที่ระดับ 27.75 บาท หรือบวก 1.00 บาท เปลี่ยนแปลง +3.74% ราคาสูงสุดที่ 28.25 บาท ต่ำสุดที่ 27.25 บาท หลังนักลงทุนรอลุ้นโหวตนายก 13 ก.ค. นี้

นักลงทุนในตลาดหุ้นไทยยังคงจับจ้องกับการลุ้นโหวตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 13 ก.ค.66 นี้ ว่า “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” นั้นจะสามารถผ่านการโหวตรอบแรกได้หรือไม่ และหวั่นตลาดหุ้นไทยจะได้รับแรงกดดัน ฉะนั้นแล้วจะเห็นได้ว่า นักลงทุนเริ่มหันเข้ามาเก็งกำไรในหุ้น Defensive stock มากขึ้น โดยเฉพาะหุ้น BDMS ปรับตัวเพิ่มขึ้นปิดตลาด (10 ก.ค.66) อยู่ที่ระดับ 27.75 บาท หรือบวก 1.00 บาท เปลี่ยนแปลง +3.74% ราคาสูงสุดที่ 28.25 บาท ต่ำสุดที่ 27.25 บาท 

หุ้น BDMS พุ่งเฉียด 4% นักลงทุนลุ้นโหวตนายกฯ เข้าเก็งกำไร Defensive stock หุ้น BDMS พุ่งเฉียด 4% นักลงทุนลุ้นโหวตนายกฯ เข้าเก็งกำไร Defensive stock

วทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย ให้ข้อมูลกับกรุงเทพธุรกิจว่า ภาพรวมของเศรษฐกิจในช่วงนี้แม้จะไม่ค่อยดีมากนัก โดยเฉพาะตลาดหุ้นค่อนข้างนิ่งไม่มีประเด็นที่จะเป็นบวกต่อตลาดสักเท่าไร ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศที่กำลังรอในการเลือกนายกรัฐมนตรีอยู่ในวันที่ 13 ก.ค.66 นี้ ผลก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะออกมาในรูปแบบใด ซึ่ง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นั้นจะสามารถผ่านการโหวตรอบแรกได้หรือไม่ 

ทั้งนี้จึงส่งผลให้หุ้น BDMS มีการปรับขึ้นมาในวันนี้ (10 ก.ค.66) เกิดจากการเข้ามาเก็งกำไรของนักลงทุนตามสภาวะตลาด ซึ่ง หุ้น BDMS เป็นหุ้น  Defensive stock ไม่ได้มีความผันผวนต่อภาวะเศรษฐกิจมากนัก ขณะที่ปัจจัยพื้นฐาน BDMS ตั้งแต่มีการเปิดประเทศ เริ่มมีผู้ป่วยต่างชาติที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง ณ ปัจจุบันมียอดจองเข้ามารักษาของต่างชาติปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง 

วีระวัฒน์  วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ฟินันเซีย ไซรัส ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สาเหตุหุ้น BDMS ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาในวันนี้ ((10 ก.ค.66) มาจากแนวโน้มการเติบโตของกำไรไตรมาส 2/66 ค่อนข้างที่จะแข็งแกร่ง คาดว่าจะสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้่นได้ 10% YoY ขณะที่รายได้มีการเติบโตได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะที่มาร์จิ้นยังอยู่ในระดับดี 

อย่างไรก็ตาม ไตรมาส 2/66 ของกลุ่มโรงพยาบาลต้องยอมรับว่า เป็นไตรมาสที่ต่ำที่สุดของปี ถ้าดู QoQ จะปรับตัวลดลง ขณะที่ YoY ยังมีการเติบโต ฉะนั้นโรงพยาบาลที่จะสามารถเติบโตได้ใน YoY จะเป็นโรงพยาบาลที่มีต่างชาติเข้ามารักษา ซึ่ง BDMS กับ  BH จะมีต่างชาติเข้ามามาก 

นอกจากนี้ ด้วยตัวธุรกิจของ BDMS มีความสม่ำเสมอ รวมถึงมีความผันผวนค่อนข้างต่ำ ในระยะกลาง - ยาวก็ยังคงให้นำหนักชอบอยู่ เป้าหมายยังอยู่ที่เดิมคือ 34.50 บาท