'สามารถ เอวิเอชั่น'จ่อเคาะราคาขายหุ้นIPO ส.ค.-คาดเทรดปลายส.คหรือต้นก.ย.

นายธีระชัย พงศ์พนางาม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทสามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAV เปิดเผยความคืบหน้าในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ว่า  บริษัทคาดว่าจะกำหนดราคาเสนอขายหุ้นIPO ได้ในช่วงเดือนส.ค.2566 และคาดว่าจะเข้าซื้อขาย(เข้าเทรด)ได้ในช่วงปลายเดือนส.ค.หรือต้นเดือนก.ย.

"ตอนนี้กระบวนการขออนุญาตขายหุ้นIPO เสร็จแล้ว เหลือแค่รอก.ล.ต อนุมัติให้เสนอขายหุ้นอย่างเป็นทางการก่อนและบริษัทได้มีการพบนักวิเคราะห์แล้วอีกไม่นานจะมีบทวิเคราะห์ของบริษัทออกมา"

ทั้งนี้บริษัทเสนอขายหุ้นIPO จำนวนไม่เกิน 224ล้านหุ้น  แบ่งเป็น หุ้นสามัญเพิ่มทุน  64 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายจากผู้ถือหุ้นเดิมไม่เกิน181.50ล้านหุ้น แต่ภายหลังการเสนอขายหุ้นIPOครั้งนี้ กลุ่มสามารถ ยังคงถือหุ้นบริษัท ในสัดส่วนประมาณ70%

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้บริษัทจะนำไปชำระคืนหนี้สถาบันการเงินที่มีทั้งหมดประมาณ 1 พันล้านบาท ทำให้บริษัทมีหนี้สินต่อทุน(D/E)เหลือเกือบ 0 เท่า ส่วนที่เหลือจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
 

สำหรับจุดแข็งของบริษัทคือ ทำธุรกิจที่ไร้คู่แข่ง เพราะเป็นผู้ให้บริการควบคุมการจราจรทางอากาศทุกสนามบินในประเทศกัมพูชาเพียงรายเดียว และบริษัทดำเนินธุรกิจที่มีการเติบโต ตามทิศทางอุตสาหกรรมการบิน และการท่องเที่ยวมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีอายุสัมปทานอยู่อีก 28ปี  ซึ่งก็สามารถต่อสัญญาได้เมื่อบริษัทมีการลงทุนมากขึ้น โดยที่ผ่านมาบริษัทได้ต่อสัญญามาได้แล้ว 4 ครั้ง รวม 49ปี

ทั้งนี้อุตสาหกรรมเกี่ยวกับการบินกัมพูชา กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง มีการลงทุนสร้างสนามบินนานาชาติใหม่ 3 แห่ง จากปัจจุบันที่มีสนามบินรวม 6 แห่ง เพื่อรองรับจำนวนนักเดินทางที่คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นได้แก่ 1.สนามบินนานาชาติพนมเปญแห่งใหม่ ในเฟสแรกสามารถรองรับนักเดินทางได้ถึง 10 ล้านคน จะเปิดให้บริการในเดือนปี2567
2. สนามบินนานาชาติเสียมเรียบแห่งใหม่ เปิดให้บริการในเดือนต.ค.2566 สามารถรองรับนักเดินทางได้ถึง 8 ล้านคน ในเฟสแรก และมีแผนขยายให้สามารถรองรับนักเดินทางได้ถึง 20 ล้านคน ในอนาคต และ 3.สนามบินนานาชาติดาราสาคร (เกาะกง) ซึ่งเป็นสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ที่จะรองรับการเติบโตด้านการท่องเที่ยวของกัมพูชาในอนาคต ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการปลายปีนี้ 

 โดยบริษัทวิจัยนานาชาติคาดว่า ในปี 2567 จำนวนนักเดินทางเข้าออกกัมพูชา จะเพิ่มมากกว่าก่อนโควิด และจำนวนเที่ยวบินในกัมพูชาจะเพิ่มเป็น 134,000 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจาก 100,000 เที่ยวบิน ที่คาดการณ์ในปี 66 เนื่องจากการกลับมาของนักท่องเที่ยว และนักธุรกิจ โดยเฉพาะจากประเทศจีน ซึ่งน่าจะกลับมาอย่างชัดเจนในต้นปีหน้า 

 สำหรับแนวโน้มผลดำเนินงานปีนี้คาดว่าจะเติบโต40-50%เมื่อเทียบกับปี2565 และคาดว่าปีนี้สามารถมีกำไรที่ดี  เนื่องจาก
การเติบโตของอุตสาหกรรมการบิน และการท่องเที่ยว และจำนวนเที่ยวบินปีนี้ฟื้นตัวกลับมา 80% จากช่วงก่อนโควิดที่มี1.3แสนเที่ยวบิน  ส่วนปี2567คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเกิน1.3แสนเที่ยวบิน  

สำหรับ SAV บริษัทย่อยของกลุ่มสามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAMART โดย SAV เป็นบริษัทโฮลดิ้ง ซึ่งมีธุรกิจแกน คือให้บริการด้านวิทยุการบินอย่างครบวงจร ผ่าน บริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิส จำกัด (CATS) ซึ่ง SAV ถือหุ้นใน CATS ในสัดส่วน 100% โดย CATS เป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวที่ได้รับสัมปทานจากรัฐบาลกัมพูชาตั้งแต่ปี 2545-2594 ในการบริหารจัดการจราจรทางอากาศ ครอบคลุมเส้นทางบินทั้งหมดของน่านฟ้าประเทศกัมพูชา

 โดยรายได้หลักของ CATS แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1.รายได้จากค่าบริการสำหรับเที่ยวบินที่บินขึ้น-ลงในประเทศ (Landing &Take-off : Domestic) 2.เที่ยวบินที่บินขึ้น-ลงระหว่างประเทศ (Landing & Take-off: International) และ 3.รายได้จากค่าบริการสำหรับเที่ยวบินที่บินผ่านเขตน่านฟ้ากัมพูชา (Overflight)