ตลท.เกาะติด‘CV'เพิ่มทุน ยันต้องเปิดเผยข้อมูลเพิ่ม

ตลท.เกาะติด‘CV'เพิ่มทุน ยันต้องเปิดเผยข้อมูลเพิ่ม

ตลท. เผย 'โคลเวอร์เพาเวอร์'ต้องเปิดเผยข้อมูลเพิ่มถึงรายละเอียดเพิ่มทุน พร้อมเกาะติด-ตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังบอร์ดอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนสูงถึง 3 เท่า 

กรณี บริษัท โคลเวอร์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CV แจ้งมติที่ประชุมคณะ กรรมการ (บอร์ด) บริษัท อนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียน 1,920 ล้านบาท เป็น 2,560 ล้านบาท จาก 640 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว โดยออกหุ้นสามัญใหม่ 3,840 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์)หุ้นละ  0.50 บาท  

โดยเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิม  2,560 ล้านหุ้น เสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิมอัตรา 1 หุ้นเดิมต่อ 2 หุ้นเพิ่มทุน  และอีกไม่เกิน 1,280 ล้านหุ้น

เพื่อรองรับการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 1 (CV-W1) แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อและได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน แต่หากผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิไม่เต็มจำนวนจะนำหุ้นที่เหลือไปขายแก่นักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) ซึ่งยังไม่เปิดเผยว่าเป็นใคร

ทั้งนี้หากเพิ่มทุนได้ตามแผนจะได้เงิน 4,096 ล้านบาท ซึ่งจะนำไปซื้อหุ้นบริษัท บริษัท เวสท์เทค เอ็กซ์โพเนนเชียล จำกัด (WTX)สัดส่วน 20%ไม่เกิน 1,040 ล้านบาท , ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนไม่เกิน 500 ล้านบาท, ชำระคืนหนี้เงินกู้ยืมของบริษัทไม่เกิน 500 ล้านบาท และใช้รองรับต่อยอดธุรกิจหลักหรือธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในอนาคตกับธุรกิจของกลุ่มบริษัท ในอนาคตไม่เกิน 2,056 ล้านบาท

 

      

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า กรณีที่บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่มีมูลค่าการเพิ่มทุนเป็นจำนวนมาก ตามหลักเกณฑ์การกำกับดูแลและตรวจสอบของตลท. บริษัทต้องมีเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งรายละเอียดข้อมูลทั้งหมดแผนการเพิ่มทุนและวัตถุประสงค์ของการนำเงินเพิ่มทุนไปใช้อย่างชัดเจน โดยว่าจ้างที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) เพื่อประเมินธุรกรรมและทำข้อมูลให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยใช้ในการพิจารณาอนุมัติเห็นชอบก่อน และทางตลท.สามารถตรวจสอบข้อมูล ข้อเท็จจริงๆ ได้อยู่แล้ว 

 ดังนั้น กรณีการเพิ่มทุนของCV ต้องปฏิบัติเช่นกัน โดยชี้แจงรายละเอียดแผนการเพิ่มทุนทั้งหมด มีวัตถุประสงค์การใช้เงินเพิ่มทุนทำอะไรบ้าง และต้องตรวจสอบก่อนว่า เข้าข่ายทำการเข้าจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ โดยอ้อม (Back-door Listing) หรือไม่ และกรณีการใช้เงินเพิ่มทุน เพื่อลงทุน WTX ซึ่งเป็นธุรกิจจัดการซากผลิตภัณฑ์ที่หมดอายุการใช้งาน รวมทั้งการแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงแข็งและธุรกิจการผลิตไฟฟ้าจากลังงานหมุนเวียนนั้น เข้าข่ายต้องย้ายหมวดธุรกิจด้วยหรือไม่ 

 “หากเป็นบจ.ที่มีการเพิ่มทุนจำนวนมากๆ หลังจากมีมติบอร์ดแล้ว มองว่า เป็นแค่เริ่มต้น หลังจากนั้นบริษัทต้องมีการเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม ให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องพิจารณาและตรวจสอบต่อไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้”