SNNP มั่นใจปีนี้ ‘รายได้-กำไร’ โต ‘สองหลัก’ ลั่นไฮซีซั่นหนุนโค้งท้ายนิวไฮ
SNNP ตอกย้ำ “รายได้-กำไร” ปี 66 เติบโตเป็นตัวเลข “สองหลัก” แย้มไตรมาส 4 เข้าสู่ไฮซีซั่น-ออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ หนุนผลงานโค้งสุดท้ายกลับมานิวไฮ
แม้ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP ปรับตัวลดลงกว่า 11% จากความกังวลผลประกอบการที่คาดจะลดลงจากประเทศเวียดนามมีความล่าช้าการติดตั้งไลน์ผลิตใหม่ “เบนโตะ” ทว่าพื้นฐานธุรกิจของ SNNP ไม่สะเทือน ! เนื่องจากพอร์ตการลงทุนทั้งในและต่างประเทศยังเติบโตต่อเนื่อง... จากสินค้าหลักอย่าง “เจเล่” และ “เบนโตะ” รวมถึงการออกสินค้าใหม่สู่ตลาด
“วิโรจน์ วชิรเดชกุล” รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP เล่าให้ “กรุงเทพธุรกิจ” ฟังว่า บริษัทยังคงเป้าหมายผลักดัน “รายได้-กำไร” เติบโตเป็น “ตัวเลข 2 หลัก” แม้ว่าในไตรมาส 3 ของทุกปี จะถือเป็นช่วงโลซีซั่นของธุรกิจ
แต่สำหรับในปีนี้บริษัทมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาสู่ตลาด เพื่อทำให้ตัวเลขยอดขายในไตรมาส 3 ปรับตัวลดลงน้อยที่สุด... รวมทั้งคาดว่าในไตรมาส 4 ปี 2566 ผลการดำเนินงานจะทำสถิติสูงสุดใหม่ เพราะว่าเป็นในช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทได้ปรับลดเป้ารายได้จากยอดขายในเวียดนามลงจากผลกระทบภาวะเศรษฐกิจในประเทศเวียดนามช่วงต้นปีที่ผ่านมา รวมทั้งปรับเป้ายอดขายในประเทศลงเล็กน้อย แต่ยังเชื่อว่าในภาพรวมยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจาก core business และยังเตรียมออกสินค้าใหม่เพื่อกระตุ้นยอดขายในเดือนพ.ย.รวมทั้งวางแผนในการลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ซึ่งจะส่งผลให้กำไรเติบโตได้ตามเป้าแน่นอน
ทั้งนี้ จากความวิตกกังวลผลประกอบการในประเทศเวียดนามจะปรับตัวลดลง สาเหตุมาจากความล่าช้าการติดตั้งไลน์ผลิตใหม่ของเบนโตะเฟส 2 และ 3 แต่ขอยืนยันว่าการล่าช้าดังกล่าวเป็นไปตามที่บริษัทมีการปรับแผนใหม่ เนื่องจากช่วงต้นปีคงต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจเวียดนามไม่ค่อยดีนัก
รวมทั้งเหตุการณ์แบงก์ล้มในสหรัฐ , ปัญหาด้านอสังหาริมทรัพย์ หรือแม้แต่ปัญหาสงครามอิสราเอลและฮามาส ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อน ดังนั้น บริษัทจึงตัดสินใจชะลอแผนติดตั้งออกไป 1-2 เดือน เพื่อรอดูสถานการณ์ แต่สำหรับไลน์การผลิตที่ 1 ปัจจุบันติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้วในช่วงที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม จากปัญหาภาวะเศรษฐกิจในเวียดนามช่วงต้นปี ยังทำให้บริษัทปรับเป้ารายได้จากการขายในเวียดนามในปี 2566 จากเดิม 1,000 ล้านบาท ลดลงมาอยู่ที่ 800 ล้านบาท แต่จะเห็นว่าในช่วงไตรมาส 1 ปี 2566 และไตรมาส 2 ปี 2566 บริษัทยังคงเติบโตจากไตรมาสต่อไตรมาส และช่วงเดียวกันปีก่อนต่อเนื่อง และเชื่อว่าครึ่งหลังยังโตต่อเนื่องอีก
“ไตรมาส 4 ปี 2566 เป็น High season ของตลาดขนมขบเคี้ยว บริษัทวางแผนจะออกผลิตภัณฑ์เบนโตะ รสชาติใหม่ 2 รสชาติ ในเดือนพ.ย. นี้ และผลิตภัณฑ์เจเล่ ชิววี่ เยลลี่ จึงคาดว่าผลประกอบการช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้จะทำ New High อีกครั้งหนึ่ง”