‘เศรษฐา’ รับมรสุมฉุดตลาดหุ้นไทย สั่งแก้ Naked Short Sell - เร่งสร้างเชื่อมั่น

นายเศรษฐา ทวีสิน นายรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์พิเศษผ่านรายการ “เนชั่นอินไซด์” กับ "เครือเนชั่น" โดยตอนหนึ่งกล่าวถึงภาวะตลาดหุ้นไทยว่าการที่ดัชนีหุ้นลดลงอย่างต่อเนื่อง และวอลลุ่มการซื้อขายลดลงยอมรับว่าในเรื่องนี้มีหลายประเด็นที่เกี่ยวข้อง โดยเรื่องแรกคือเรื่องของปัญหาของ “Naked Short Sell” ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าเท่าที่ได้รับรายงานก็เข้าใจว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง ซึ่งก็มีการพูดคุยกันแล้วว่าได้ฝากไปยังหน่วยงานที่มีการกำกับดูแลว่าต้องเอาจริงเอาจังต้องแก้ไขให้ได้

นอกจากนี้ที่ผ่านมามีหุ้นบางตัวที่มีคนที่ทำผิดอย่างชัดเจนทั้งในเรื่องของหุ้น สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK และบริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE ซึ่งถึงวันนี้ยังเอาคนผิดมาลงโทษไม่ได้ ซึ่งตรงนี้ก็กระทบกับความเชื่อมั่นของนักลงทุนเพราะมีผู้เสียหายจำนวนมากจึงสั่งการให้เข้าไปแก้ไขจริงจังในเรื่องนี้โดยเร็ว   

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่านอกจากนี้การลดลงของดัชนีหุ้นยังเป็นผลมาจากเรื่องของวิกฤติเศรษฐกิจก็เป็นเรื่องที่กระทบกับความเชื่อมั่นและความมั่นใจเพราะ GDP ประเทศตกลงเหลือ 1.5% ก็เป็นเรื่องที่กระทบกับความมั่นใจของนักลงทุน เพราะ GDP โตต่ำ ประเทศอื่นเขาเติบโตมากกว่านักลงทุนก็ไปยังประเทศอื่นดีกว่า ซึ่งก็เป็นข้อเปรียบเทียบ ซึ่งยังไม่ถึงกับติดลบแต่กองทุนใหญ่ๆเขาก็ดูว่าจะไปที่ประเทศอื่นๆที่มองว่าดีกว่าประเทศไทยซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องดึงความเชื่อมั่นขึ้นมาให้ได้

“ตลาดหุ้นในปัจจุบันสะท้อนความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นลดลง เพราะว่าตลาดหุ้นไทยความเชื่อมั่นลดลงแล้วตลาดเราก็ตกต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านซึ่งก็มีการคุยกันกับหลายภาคส่วนที่ต้องมีการ take action ซึ่งมีการคุยกับ ก.ล.ต. และต.ล.ท. อยู่โดยตลอด ซึ่งตอนนี้ต้องช่วยกันทุกภาคส่วน และต้องทำทั้งสร้างความเชื่อมั่น และจัดการผู้กระทำผิดให้ได้”

สั่งดูแลหุ้นกู้ครบกำหนดชำระ

ส่วนเรื่องของหุ้นกู้ที่จะมีการครบกำหนด "โรลโอเวอร์" ก็ได้มีการหารือกับหลายฝ่ายรวมทั้งสถาบันการเงินแล้วว่าถ้ามีปัญหาเรื่องนี้จะปล่อยไปไม่ได้ เพราะได้มีการติดตาม และบอกว่าให้ช่วยดูเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งได้หารือกับปลัดกระทรวงการคลัง เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.)และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ให้ดูแลเรื่องเหล่านี้ และเอาข้อมูลมาดูแล้วติดตามร่วมกัน แต่เหนือสิ่งอื่นใดสถาบันการเงินต้องดูว่าลูกหนี้รายใดเริ่มที่มีสัญญาณที่จะผิดชำระหนี้

“ที่พูดมาทั้งหมดคือเรื่องของการที่บอกว่าเกิดวิกฤติ อาจยังไม่เกิดแต่มีสัญญาณบางตัว โดยหน้าที่ของรัฐบาลก็ต้องบริหารจัดการ และทำงานร่วมกับภาคส่วนต่างๆอย่างใกล้ชิด กับสถาบันการเงิน ผู้กำกับดูแลต่างๆให้ช่วยกันดูแลทุกด้าน”