เปิดโผ 17 หุ้นดัง รับอานิสงส์ โครงการ e-Refund
เปิดโผ 17 หุ้นดัง รับอานิสงส์ โครงการ e-Refund นักวิเคราะห์คาดการณ์ โครงการนี้จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโตสู่ระดับ 5%
เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า วันนี้จะมีการประชุม ครม. โดยจะมีการพิจารณาเห็นชอบมาตรการกระตุ้นการบริโภคภาคเอกชน และประชาชน ผ่านโครงการ E-REFUND ที่จะเปิดให้ผู้เสียภาษีสามารถซื้อสินค้าได้ภายในมูลค่าไม่เกิน 50,000 บาท และนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้ในปี 2568 โดยเบื้องต้นไทม์ไลน์ที่รัฐบาลวางไว้ของช่วงเวลาการใช้จ่าย คือ ต้นปี 2567
ทั้งนี้ คาดว่านโยบายดังกล่าวอาจเป็นคลื่นลูกใหม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยปี 2567 ให้โตมากกว่าค่าเฉลี่ย CONCENSUS ที่ทำช่วง 3.2 - 3.5% ขณะที่เม็ดเงินดำเนินโครงการนี้คาดว่าจะทำให้ทางกรมสรรพากรสูญเสียรายได้ราว 1 - 2 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ประสิทธิภาพของโครงการ E-REFUND คาดว่าจะช่วยเกิดวงเงินเดินสะพัดในระบบเศรษฐกิจราว 1-2 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนต่อ GDP น่าจะอยู่ที่ราว 0.54% - 1.09% ซึ่งมีแนวโน้มสูงกว่าช่วง 2 ปี ผ่านมา เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ ร่วมด้วย
โดยกลุ่มอุตสาหกรรม ที่จะได้ประโยชน์หากนโยบายดังกล่าวเกิดขึ้นจริงคือ กลุ่มท่องเที่ยว CENTEL ERW, กลุ่มอุปโภคบริโภค CPAXT, HMPRO, COM7, CRC, CPALL, BJC, CBG, DOHOME, DCC และกลุ่มคาดหวังเศรษฐกิจฟื้นตัว KBANK BBL TISCO TIDLOR MTC SAWAD เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม นโยบาย E-REFUND คาดรู้ความคืบหน้า หลังการประชุม ครม.วันนี้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งนโยบายหลักที่ช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโตสู่ระดับ 5%
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์