หุ้นไทยวันนี้ ปิดตลาดเย็น (6 ธ.ค.) บวก 6.01 จุด จ้างงานสหรัฐหดตัว - แรงซื้อ TESG
“ตลาดหุ้นไทย” วันนี้ (6 ธ.ค.66) ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,389.55 จุด บวก 6.01 จุด หรือ 0.43% โบรกเกอร์ชี้ดัชนีฯ ปรับตัวขึ้นเพราะได้รับอานิสงส์จากตัวเลขภาคการจ้างงานสหรัฐปรับตัวลดลงหนัก รวมทั้งคาดแรงซื้อจากกองทุน TESG หนุนหุ้นไทยโค้งสุดท้ายของปี
ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาด “หุ้นไทยวันนี้” วันนี้ (6 ธ.ค.66) ปิดตลาดอยู่ที่ 1,389.55 จุด บวก 6.01 จุด หรือ 0.43% โดย “ตลาดหุ้นไทย” ผันผวนในทิศทางปรับตัวขึ้นตลอดทั้งวัน ซึ่งทำจุดต่ำสุดวันนี้อยู่ที่ 1,379.62 จุด และสูงสุดอยู่ที่ 1,393.46 จุด มูลค่าซื้อขาย 38,600.16 ล้านบาท
หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่
- PTTEP มูลค่า 2,332.09 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 143.00 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 1.72%
- PTT มูลค่า 1,995.68 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 35.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
- AOT มูลค่า 1,734.00 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 60.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
- BDMS มูลค่า 1,580.19 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 25.75 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 1.90%
- KBANK มูลค่า 1,569.97 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 127.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 1.16%
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า วันนี้ดัชนีฯ ปรับตัวขึ้นเพราะได้รับอานิสงส์จากทั้งปัจจัยภายใน และภายนอก
สำหรับปัจจัยภายนอกคือ ตัวเลขการว่างงานในสหรัฐ (Job Openings) ปรับตัวลดลงในรอบ 31 เดือนที่ประมาณ 8.7 ล้านตำแหน่ง ซึ่งเป็นสัญญาณว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
ในขณะที่ปัจจัยภายในคือ ในระยะสั้นจะมีเม็ดเงินราวหมื่นล้านเข้าไปในตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะในกลุ่ม SET 50 และ SET 100 ผ่านกองทุน Thai ESG ดังนั้นก็เป็นความรู้สึกเชิงบวกในตลาดหุ้นไทยรวมทั้งทำให้หลายคนไม่กล้าชอร์ตตลาดหุ้นในช่วงนี้
โดยมองว่าวันพรุ่งนี้ (7 ธ.ค.66) ดัชนีฯ จะยังปรับตัวขึ้นต่อในกรอบ 1,380 - 1,400 จุด แนะนำหุ้นที่มีเรทติ้งส์ ESG ขั้น AA ขึ้นไป ประกอบกับมีวอลุ่มการเทรดที่ 50 ล้านบาทต่อวันระยะยาว รวมทั้งกำไรต่อหุ้นเติบโต 10% ขึ้น รวมทั้งในช่วง 10 ปีย้อนหลังซื้อขายที่กำไรต่อหุ้นต่อ คือ WHA GPSC CPALL CRC MASTER
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์