ดาวโจนส์บวกจำกัด หลังตัวเลขว่างงานสูงกว่าคาด หนุนเฟดหั่นดอกเบี้ยปีหน้า
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันพฤหัสบดี(28ธ.ค.)ดีดตัวขึ้นเล็กน้อย ขานรับตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 53.58 จุด หรือ 0.14% ปิดที่ 37,710.10 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 บวก 0.04% ปิดที่ 4,783.35 จุด และดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวลง 0.03% ปิดที่ 15,095.14 จุด
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 12,000 ราย สู่ระดับ 218,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 210,000 ราย
ตลาดหุ้นสหรัฐมีแนวโน้มทำสถิติปรับตัวขึ้น 9 สัปดาห์ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากการที่เฟดส่งสัญญาณยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.2567 และเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยจำนวน 6 ครั้งในปี 2567 โดยปรับลดครั้งละ 0.25% รวม 1.50% มากกว่าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.75%
ตลาดจับตาปรากฎการณ์ "ซานต้า แรลลี่" ในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปีนี้ ซึ่งมักเกิดขึ้นเป็นเวลา 7 วันทำการ โดยมีขึ้นในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปีปัจจุบัน รวมทั้ง 2 วันแรกของปีใหม่
ข้อมูลจาก Stock Trader's Almanac ระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2512 ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 1.3% ในช่วงเวลา 7 วันดังกล่าว