ดาวโจนส์ทรุด 317 จุด หลังเฟดคงดอกเบี้ย พร้อมส่งสัญญาณไม่มีแผนลดดอกเบี้ย
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันพุธ(31ม.ค.)ปรับตัวร่วงลง 317 จุด หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินตามการคาดการณ์ของตลาด พร้อมทั้งส่งสัญญาณไม่มีแผนลดดอกเบี้ย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 317.01 จุด หรือ 0.82% ปิดที่ 38,150.30 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 79.32 จุด หรือ 1.61% ปิดที่ 4,845.65 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 345.89 จุด หรือ 2.23% ปิดที่ 15,164.01 จุด
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 22 ปี
การประกาศคงอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และเป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 4 หลังจากที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 11 ครั้งนับตั้งแต่ที่เริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.2565 ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 5.25%
อย่างไรก็ดี เฟดส่งสัญญาณว่ายังไม่มีแผนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเงินเฟ้อยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมายของเฟด
"คณะกรรมการ FOMC ไม่ได้คาดหวังว่าเป็นเรื่องเหมาะสมที่จะปรับลดช่วงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น จนกว่าจะมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเงินเฟ้อกำลังปรับตัวสู่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน ในการพิจารณาการปรับช่วงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น คณะกรรมการ FOMC จะทำการประเมินข้อมูลที่ได้รับอย่างระมัดระวัง รวมทั้งแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงไป และสร้างความสมดุลต่อความเสี่ยง" แถลงการณ์ระบุ
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด หลังเสร็จสิ้นการประชุม เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้
ขณะเดียวกัน ตลาดจับตาตัวเลขจ้างงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนม.ค.ในวันศุกร์นี้
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้น 173,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. โดยชะลอตัวจากระดับ 216,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.8% ในเดือนม.ค. จากระดับ 3.7% ในเดือนธ.ค.