‘รัฐบาลจีน’ เผยจ่ออุ้มตลาดหุ้นเพิ่ม หลังเดือน ม.ค. CSI300 ดิ่งเฉียด 7%

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานวันนี้ (5 ก.พ.) ว่า รัฐบาลจีนให้คํามั่นว่าจะรักษาเสถียรภาพของตลาดหลังจากหุ้นร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีในการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ผู้กําหนดนโยบายไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับวิธีที่พวกเขาวางแผนที่จะยุติการเทขายที่ลบมูลค่าตลาดมากกว่า 6 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 222 ล้านล้านบาท) และทําลายความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาคณะกรรมการกํากับดูแลหลักทรัพย์ของจีนให้คํามั่นว่าจะป้องกันความผันผวนที่ผิดปกติในตลาดหุ้น โดยจะนําเงินทุนระยะกลางและระยะยาวเข้าสู่ตลาดมากขึ้น รวมทั้งปราบปรามกิจกรรมที่ผิดกฎหมายเช่นการขายชอร์ตและการซื้อขายโดยใช้ข้อมูลภายใน

ถ้อยแถลงสั้น ๆ ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากการดิ่งลงอย่างกะทันหันถึง 3.4% ของดัชนี CSI 300 เมื่อวันศุกร์ และความไม่พอใจบนโซเชียลมีเดียจากนักลงทุนรายย่อยเกี่ยวกับตลาดหุ้นก่อนวันเฉลิมฉลองตรุษจีน 
 

"แถลงการณ์ดังกล่าวต้องการพยายามรักษาเสถียรภาพความเชื่อมั่นของนักลงทุน แต่ไม่ได้แตะต้องปัญหาพื้นฐานของประเทศ รวมถึงการขาดความเชื่อมั่นและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจอย่างมาก" เซิน เหมิง (Shen Meng) ผู้อํานวยการธนาคารเพื่อการลงทุน Chanson & Co. กล่าว พร้อมเสริมว่า

"ปัญหาเหล่านี้เป็นสาเหตุของความผันผวนของตลาดหุ้นปัจจุบัน"

ที่ผ่านมาทางการจีนดําเนินการ “ทีละน้อย” เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจและตลาดในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และได้หารือเกี่ยวกับ “กองทุนรักษาเสถียรภาพหุ้น” ที่มีแนวโน้มเกิดขึ้น แต่พวกเขายังไม่ได้ประกาศการเคลื่อนไหวที่สําคัญใดๆ เพื่อหยุดการเทขายของบรรดานักลงทุน 

โดยบทวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก ระบุว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่คุกรุ่นกับสหรัฐ วิกฤตอสังหาริมทรัพย์ที่เลวร้ายลงและการปราบปรามภาคการเงินล้วนส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
 

ดัชนี CSI 300 ร่วงลง 6.3% ตลอดเดือนม.ค. ซึ่งเป็นการขาดทุนเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน หุ้นปรับตัวขึ้นในช่วงสั้น ๆ ในช่วงปลายเดือนหลังจาก บลูมเบิร์กรายงานว่าทางการพยายามระดมเงินประมาณ 2 ล้านล้านหยวน (278 พันล้านดอลลาร์) สําหรับกองทุนรักษาเสถียรภาพตลาดหุ้น แต่ตลาดได้กลับมาลดลงอีกครั้งโดยแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2562

อ้างอิง

Bloomberg