จาก ‘ใบเหลือง’ สู่ ‘ใบแดง’ เมื่อ ‘หุ้น MGI’ วิ่งไม่หยุด !!
หุ้น MGI ของบอสใหญ่ “ณวัฒน์ อิศรไกลศีล” คงความ "ร้อนแรง" ได้อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่วันแรกเข้าระดมทุนจนถึงวันที่ถูกตลาดหลักทรัพย์ฯ ดับร้อนด้วย “มาตรการสูงสุด” หยุดเทรด 1 วัน !! เซ่นราคาหุ้น MGI ใช้เวลา 2 เดือนเศษๆ พุ่งทะยาน 596.96% จากราคาไอพีโอ 4.95 บาท
จากราคา “ต่ำสุด” หุ้นละ 4.95 บาท (IPO) พุ่งทะยานเย้ยฟ้าท้าดินมาก...สู่ราคา “สูงสุด” (นิวไฮ) หุ้นละ 34.50 บาท (19 ก.พ.2567)
คงไม่มีใครคาดคิด ! ว่า “หุ้น MGI” หรือ บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เจ้าของฉายา “หุ้นนางงาม” ของผู้ถือหุ้นใหญ่ สัดส่วน 42.68% และผู้ก่อตั้งธุรกิจ “ณวัฒน์ อิศรไกลศีล” จะมาไกลได้เพียงนี้ !! จากวันที่เข้าซื้อขายวันแรก (เทรด) ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (MAI) เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2566 ราคาหุ้นจะ “ร้อนแรง” ไม่มีแผ่ว !! และยังไม่ต้องสนใจสถานการณ์ตลาดหุ้นโดยรวมว่าเป็นอย่างไร จะซบเซาเงียบเหงาหรือคึกคัก
สะท้อนจากราคาหุ้น MGI ล่าสุดที่พุ่งทะยานตั้งแต่วันแรกเปรียบเหมือนดัง “จรวด” ที่ถูกยิงออกจากฐานทัพแล้วไม่มีทางหยุดพุ่ง หากยังไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้...
หากลองย้อนดูเส้นทางของ "หุ้น MGI" นับตั้งแต่เทรดวันแรก (14 ธ.ค. 2566) ด้วยราคา IPO หุ้นละ 4.95 บาท แต่ล่าสุดเมื่อ 19 ก.พ. 2567 หุ้น MGI กลับมาปลุกกระแสความสนใจอีกครั้ง ! หลังราคาหุ้นปรับตัวขึ้นร้อนแรงมาอยู่ที่ 34.50 บาท พุ่งทะยาน 18.97% หรือบวก 5.50 บาท ซึ่งเป็นราคาสูงสุดนับตั้งแต่เข้าระดมทุนในตลาดหุ้นคงไม่ผิดนัก
ดังนั้น หากลองคิดจากราคาไอพีโอหุ้นละ 4.95 บาท จนถึงปัจจุบัน หุ้น MGI ใช้ระยะเวลา 2 เดือนเศษ ๆ ราคาหุ้นพุ่งไปกว่า 596.96% แล้ว...
แม้ว่าที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) พยายามสยบ หุ้น MGI มาโดยตลอด ทั้งมาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 กำหนดต้องซื้อหุ้นด้วยเงินสดหรือแคชบาลานซ์ และห้ามคำนวณวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ และมาตรการกำกับการซื้อขาย ระดับ 2 ห้าม Net Settlement, ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย และ Cash Balance ในหุ้น MGI โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 7 -27 ก.พ. 2567 ก็หยุดความร้อนแรงลงได้บางก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แต่ราคาหุ้น MGI ครั้งนี้ ตลท. คงสุดทน !! หลังเห็นพฤติกรรมราคาหุ้น MGI ร้อนแรงแบบดับไม่อยู่แล้ว ! จึงตัดสินใจ "ฟาดไม้เรียว" ด้วย “มาตรการสูงสุด” ด้วยมาตรการการกำกับการซื้อขาย ระดับ 3 (ห้าม Net Settlement, ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย, Cash Balance โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.-11 มี.ค. 2567 และขึ้นเครื่องหมาย Pause : P เพื่อหยุดพักการซื้อขาย 1 วันทำการ (มาตรการสูงสุด) โดยขึ้นเครื่องหมาย P ในวันที่ 20 ก.พ. 2567 และปลดเครื่องหมาย P ในวันที่ 21 ก.พ.2567
โดยตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีการสอบถาม MGI ถึงพัฒนาการใด ๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาหุ้น MGI เนื่องจากพบว่าสภาพการซื้อขายหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจากวันก่อนหน้า เพื่อให้ผู้ถือหุ้นและหรือผู้ลงทุนได้มีข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจลงทุนอย่างครบถ้วน
ทาง MGI ชี้แจงว่า ไม่มีมีพัฒนาการใด ๆ ที่ยังไม่ได้เปิดเผย หรือสารสนเทศที่มีนัยสำคัญที่บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาและอาจเปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ในระยะเวลาอันใกล้ เช่น การเพิ่มทุน การร่วมทุน การได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน หรือข้อพิพาทที่สำคัญ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาพการซื้อขายที่เปลี่ยนแปลงไป และไม่ทราบถึงสาเหตุอื่นใดที่อาจส่งผลกระทบต่อการซื้อขาย
นี่ไม่ใช้ครั้งแรกที่ หุ้น MGI ร้อนแรงเฉกเช่นนี้ !! เพราะก่อนหน้านี้เมื่อ 20 ธ.ค. 2566 ราคาหุ้น MGI เคยเคลื่อนไหว “รุนแรง” มาแล้ว สะท้อนจากราคาหุ้นถูกลากขึ้นไปทำ “จุดสูงสุด” 20.10 บาท หรือพุ่งทะยานกว่า 306% จากราคาไอพีโอหุ้นละ 4.95 บาท
แต่ระหว่างวันก็ถูกทุบรูดลงมา “ต่ำสุด” ของวันที่ 13.60 บาทเช่นกัน แต่ไม่นานก็มีแรงซื้อไหลเข้ามาลากหุ้นขึ้นไปอีกรอบ จนราคาปิดซื้อขายของวันครึ่งเช้าที่ 17.60 บาท (20 ธ.ค.) ทำให้วันนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ ลงดาบไปแล้วครั้งหนึ่ง หลังเห็นพฤติกรรมการ “ลากขึ้น” และ “ทุบลง” ของหุ้น MGI จนต้องออกโรงทันที
ด้วยการออกประกาศติดป้าย “เตือน” นักลงทุนใช้ความระมัดระวังลงทุนในหุ้น MGI หลังพบแรงเก็งกำไรสูง ! และจากราคาหุ้นเคลื่อนไหว “หวือหวา” ตลอดนับตั้งแต่เข้าซื้อขาย ย้อนดูจากราคาหุ้นถูกลากขึ้นไปต่อเนื่องจนชนเพดานสูงสุด (ซิลลิ่ง) 30% 2 วันซ้อน !! เรียกว่าสร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุนไม่น้อย
หากดูอีกหนึ่ง “ไฮไลต์” น่าสนใจคือ หุ้น MGI เป็นหนึ่งในหุ้นที่มีนักลงทุนรายใหญ่ “ชุมนุม” กันหนาแน่นหลายราย ทั้งได้รับจัดสรรตั้งแต่ไอพีโอ และ เข้ามาลงทุนหลังระดมทุนแล้ว สะท้อนจากรายชื่อที่ปรากฏใน 10 อันดับแรก อย่าง “พีรเจต สุวรรณนภาศรี” นักลงทุนรายใหญ่ ถือหุ้น 2.93% “เฉลิมเดช ลีวงศ์เจริญ” นายกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (สมาคม VI) ถือหุ้น 1.17% “เบิร์ท-มานิตย์ ศรายุทธิกรณ์” นักลงทุนเจ้าของเพจ “Bert Manit” ถือหุ้น 1.15%
** ย้อนดูรายได้-กำไรสุทธิ ของ MGI
- ปี 2563 รายได้ 338 ล้านบาท กำไรสุทธิ 44.8 ล้านบาท
- ปี 2564 รายได้ 342 ล้านบาท กำไรสุทธิ 29.0 ล้านบาท
- ปี 2565 รายได้ 319 ล้านบาท กำไรสุทธิ 47.8 ล้านบาท
- ปี 2566 (ม.ค.-ก.ย.) รายได้ 432 ล้านบาท กำไรสุทธิ 77.1 ล้านบาท