TIPH ปี 66 โกยกำไร 1.75 พันล้าน โต 50% เดินหน้าลงทุนสู่ New S-curve

TIPH ปี 66 โกยกำไร 1.75 พันล้าน โต 50% เดินหน้าลงทุนสู่ New S-curve

TIPH ประกาศกำไรปี 2566 ที่ 1,759 ล้านบาท เพิ่ม 50.9% จากปีก่อน หลังเบี้ยประกันภัยโตแกร่ง - ค่าสินไหมทดแทนลดลงเข้าสู่สภาวะปกติ   ประกาศแผนปี 2567 เดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจประกันภัยทั้งใน และต่างประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตให้องค์กรแบบ New S-Curve

KEY

POINTS

 

 

บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ว่า ในปี 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิ  จำนวน 1,759 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 594 ล้านบาท หรือ 50.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 2.96 บาท 

เป็นผลมาจาก บริษัทมีกำไรจากการรับประกันภัย จำนวน 3,705 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,008 ล้านบาท หรือ37.4%  เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และมีรายได้ และกำไรจากการลงทุน จำนวน 838 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 144 ล้านบาท หรือ 20.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นไปตามนโยบายและกลยุทธ์

มีเบี้ยประกันภัยรับรวม อยู่ที่ 34,787 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจำนวน 2,219 ล้านบาท หรือ  6.8%  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

 

 

 

สำหรับไตรมาส 4 ปี 2566  บริษัทมีกำไรสุทธิ จำนวน 517 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 124 ล้านบาท หรือ 31.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.87 บาท

บริษัท มีกำไรจากการรับประกันภัย จำนวน 1,216 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 212 ล้านบาท หรือ 21.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของเบี้ยประกันภัยรับ  โดยมีเบี้ยประกันภัยรับรวม จำนวน 11,699 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 915 ล้านบาท หรือ 8.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ประกอบกับอัตราส่วนค่าสินไหมทดแทนลดลงเข้าสู่สภาวะปกติ  

 

นายสมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า  สำหรับกลยุทธ์การลงทุนใน ปี 2567  TIPH มุ่งเน้นการลงทุนโดยแสวงหา New S-Curve ใหม่ๆ เพื่อสร้างโอกาสให้องค์กรเติบโตอย่างก้าวกระโดด และยั่งยืน TIPH ได้วางแผนขยายการลงทุนในกลุ่มธุรกิจประกันภัยทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยเฉพาะธุรกิจประกันภัยในอาเซียนที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง ควบคู่ไปกับการแสวงหาโอกาสการลงทุนในกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ ที่มีศักยภาพในการทำกำไร  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำมาเติมเต็มระบบนิเวศทางธุรกิจ (Business Ecosystem) อย่างครบวงจร และสร้าง Synergy ร่วมกันกับธุรกิจเดิมภายในกลุ่ม

นอกจากนี้ TIPH ยังเร่งผลักดันแผนการเติบโตของบริษัทในกลุ่มที่ได้ลงทุนไป ผ่านการวางแผนกลยุทธ์ ทิศทาง และการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดย TIPH ได้กำหนดเป้าหมายทั้งในส่วนของรายได้ และผลตอบแทนของแต่ละบริษัททั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อให้ทุกธุรกิจที่ลงทุนไปแล้วนั้นสามารถสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน และผลตอบแทนการลงทุนได้ตามที่คาดหวัง เพื่อให้บรรลุตามนโยบายหลักให้กลุ่ม TIPH เป็นธุรกิจประกันภัยชั้นนำในภูมิภาค

ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง และสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับความเชี่ยวชาญและการเป็นผู้นำในธุรกิจประกันภัย ตลอดระยะเวลา 72 ปี ของทิพยประกันภัย พร้อมกลยุทธ์สู่การเป็นผู้นำของธุรกิจประกันภัยยุคใหม่ที่ได้วางไว้ ทำให้ TIPH พร้อมเดินหน้าลงทุนต่อ เพื่อนำพาธุรกิจ และบริษัทในกลุ่มสู่การเติบโต ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนภารกิจเชิงสังคม สิ่งแวดล้อม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (ESG) เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหุ้นต่อไป ดร.สมพร กล่าวทิ้งท้าย

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์