CEO 4 หุ้น SET50 ขายดี ขายเก่ง รายได้รวมเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอด 5 ปี

การคัดเลือกลงทุนในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ นอกจากจะดูว่า บริษัทนั้นมีผลดำเนินการสามารถทำกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลายปีหรือไม่นั้น การพิจารณารายได้รวมเพิ่มขึ้นต่อเนื่องของบริษัทนั้นๆ ก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน “กรุงเทพธุรกิจ” ได้คัดเลือกบริษัทใน ดัชนี SET50 แหล่งรวมหุ้นพื้นฐานขั้นดี ที่มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอด 5 ปีซ้อน

CEO 4 หุ้น SET50 ขายดี ขายเก่ง รายได้รวมเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอด 5 ปี

1. บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF

• รายได้ปี 2566 ที่ 116,950.73 ล้านบาท 
• รายได้ปี 2565 ที่ 95,076.17 ล้านบาท 
• รายได้ปี 2564 ที่ 49,983.74 ล้านบาท 
• รายได้ปี 2563 ที่ 33,370.44 ล้านบาท 
• รายได้ปี 2562 ที่ 30,343.36 ล้านบาท 
• กำไรสุทธิ ปี 2566 ที่ 14,857.73 ล้านบาท 
• สารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร 

โดย บล.เคจีไอฯ ระบุว่า GULF ยกระดับกลับไปมุ่งเน้นที่ธุรกิจดั้งเดิม บริษัทมองโอกาสในการประมูลโครงการพลังงานทดแทน (renewable :RE) ครั้งที่ 2 ขนาด 3.7 GWh หลังจากการประมูลครั้งแรกไปด้วยขนาด 5.3GWh โดยที่ เรายังเชื่ออีกกว่ามีความเป็นไปได้สูงมากที่ GULF จะเป็นผู้ชนะการประมูลอีกครั้งด้วยความชำนาญเฉพาะด้านสูงและการใช้ประโยชน์จากบริษัทร่วมทุนที่จัดตั้ง 

ขณะที่ บริษัท Gulf Binance (บริษัทร่วมทุน 51:49 ของ GULF และ Binance) เกี่ยวกับกลยุทธ์ธุรกิจและแนวโน้มสินทรัพย์ดิจิทัล แพลตฟอร์ม Binance TH มุ่งหวังไว้สูงว่าจะมีส่วนแบ่งมูลค่าตลาดใหญ่ที่สุดภายในปี 2567-68 ด้วยส่วนแบ่งตลาดที่ 30% โดยมีแรงจูงใจจาก ค่าธรรมเนียมการซื้อขายต่ำลง มีเหรียญที่จดทะเบียนมากกว่า 120 ชนิด ความน่าเชื่อถือ ลักษณะโดดเด่น (เช่น อัตราทด, การฝากเหรียญ) และพันธมิตรที่มีศักยภาพ ในแง่ดี AIS ยังช่วยชักชวนลูกค้าให้มาใช้แพลตฟอร์อีกด้วย ในปี 2567 ประมาณการว่าจะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 9 แสนราย (เทียบกับ 5 หมื่นในเดือน ม.ค. 2567 ปัจจุบันนี้ ประเทศไทยมีอัตราการใช้คริปโตอยู่ที่ 10% (เทียบกับอัตราการใช้คริปโตโลกที่ 4.2%) และติดอันดับที่ 10 ในการจัดอันดับของโลก 

นอกจากนี้ GULF พร้อมจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับ ADVANC, KTB และ OR ในการขอใบอนุญาตและดำเนินธุรกิจธนาคารแบบไร้สาขาโดยยกระดับจากความชำนาญของแต่ละด้านร่วมกัน (SCOD: ปี 2569) แม้ว่า ธุรกิจธนาคารแบบไร้สาขาอาจเผชิญกับความท้าทายด้านความสามารถในการทำกำไรในเวลาหลายปี โดยเฉพาะการพิจารณาจากการใช้เงินทุนมากอย่างมีนัยสำคัญพร้อมกับการได้ลูกค้าเข้ามาและการสร้างความไว้วางใจ 

2.บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7

• รายได้ปี 2566 ที่ 69,641.67 ล้านบาท 
• รายได้ปี 2565 ที่ 63,025.62 ล้านบาท 
• รายได้ปี 2564 ที่ 51,154.66 ล้านบาท 
• รายได้ปี 2563 ที่ 37,352.90 ล้านบาท 
• รายได้ปี 2562 ที่ 33,390.19 ล้านบาท 
• กำไรสุทธิ ปี 2566 ที่ 2,857.17 ล้านบาท 
• สุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร 

บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจหลักในการค้าปลีกสินค้าไอที ประเภทคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะคอมพิวเตอร์แบบพกพา สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และอุปกรณ์เสริมที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเป็นผู้ให้บริการศูนย์ซ่อมแซ่มสินค้าแอปเปิ้ล (iCare) มีจำนวน 1,400 สาขา ประกอบด้วย BaNANA, Bb, B-Play, BKK, BeBePhone, E-quip, Franchise, iCare, King Kong Phone, Studio7, True Shop by Com7, U-Store Brand shop และ ร้านขายยา Dr.Pharma

3.บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA

• รายได้ปี 2566 ที่ 31,597.76 ล้านบาท 
• รายได้ปี 2565 ที่ 27,546.81 ล้านบาท 
• รายได้ปี 2564 ที่ 20,558.10 ล้านบาท 
• รายได้ปี 2563 ที่ 17,199.14 ล้านบาท 
• รายได้ปี 2562 ที่ 14,954.54 ล้านบาท 
• กำไรสุทธิ ปี 2566 ที่ 7,606.17 ล้านบาท 
• สมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร 

ปีนี้บริษัทขยายกำลังการผลิตโรงงานแบตเตอรี่ บริษัทจะเน้นเดินหน้าขยายให้สอดคล้องกับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น โดยภายในปีนี้คาดว่าจะได้เห็นการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 2 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) ขายคาร์บอนไปที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์มากขึ้น และตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจ EV ในระยะ 3-5 ปีข้างหน้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 50% จากปัจจุบันที่ประมาณ 37% โดยปีนี้จะเห็นโปรดักส์รถ EV ของบริษัทที่เพิ่มขึ้น ทั้ง EV Dump Truck ,EV Road Sweeper Truck,EV Garbage Truck และ EV Tractor

4.บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC

• รายได้ปี 2566 ที่ 24,526.18 ล้านบาท 
• รายได้ปี 2565 ที่ 20,068.49 ล้านบาท 
• รายได้ปี 2564 ที่ 16,018.74 ล้านบาท 
• รายได้ปี 2563 ที่ 14,732.59 ล้านบาท 
• รายได้ปี 2562 ที่ 12,687.93 ล้านบาท 
• กำไรสุทธิ ปี 2566 ที่ 4,906.47 ล้านบาท 
• ชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร 

ปัจจุบันมีแหล่งเงินทุนผ่านสาขาที่มีอยู่กว่า 7,500 แห่ง และมุ่งสร้างความเท่าเทียมทางการเงินให้ครอบคลุมทั่วประเทศบริษัทมุ่งมั่นยกระดับการบริการสินเชื่อให้เป็นแหล่งเงินทุนที่มีคุณภาพในมาตรฐานระดับโลก (World-Class Thai Microfinance) สอดรับความร่วมมือองค์การระหว่างประเทศหลายสถาบัน เช่น ความร่วมมือรัฐบาลญี่ปุ่น (JICA) และรัฐบาลเยอรมนี (KFW DEG) เพื่อระดมทรัพยากรทางการเงินเป็นที่พึ่งให้ประชาชนอย่างทั่วถึง ภายใต้หลักธรรมาภิบาล เคารพในสิทธิ รักษาผลประโยชน์ และตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าให้เกิดความประทับใจสูงสุด ส่งผลให้ได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการอยู่ในระดับ “ดีเลิศ” หรือ 5 ดาว