'โกลด์แมน แซคส์' ชี้หุ้นเมกะแคปหนุนตลาด ส่งดัชนี S&P500 ทะยานแตะ 6,000 จุด

'โกลด์แมน แซคส์' ชี้หุ้นเมกะแคปหนุนตลาด ส่งดัชนี S&P500 ทะยานแตะ 6,000 จุด

"โกลด์แมน แซคส์" ชี้อนาคตดัชนี S&P500 คาด "หุ้นเมกะแคป" ด้านเทคโนโลยีขยายตัว อาจหนุนตลาดหุ้นทำให้ดัชนีพุ่งขึ้นไปอีก 15% ทะยานแตะ 6,000 จุด ณ สิ้นปี พร้อมประเมินหุ้นเทคตัวใหญ่ยังห่างไกลจาก 'ฟองสบู่'

โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) ยังคงคาดการณ์ว่า ดัชนี S&P 500 ในปีนี้จะปิดตลาดที่ระดับ 5,200 จุด แต่ทว่ากลยุทธ์การลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ หรือ"เมกะแคป" (Megacap)ด้านเทคโนโลยี อาจนำดัชนีพุ่งขึ้นไปอีก 15% แตะระดับ 6,000 จุด เนื่องจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางและการเติบโตของเศรษฐกิจ


นักวิเคราะห์ของ โกลด์แมน แซคส์ ซึ่งนำโดยเดวิด คอสติน ประเมินสถานการณ์ของตลาดหุ้นที่อาจเกิดขึ้นนอกเหนือจากกรณีพื้นฐาน หนึ่งในนั้นคือ "หุ้นกลุ่มเมกะแคป" ด้านเทคโนโลยีที่มีการประเมินมูลค่าบริษัทที่ขยายตัว อาจส่งผลให้ดัชนี S&P 500 แตะ 6,000 จุด และมีอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E ratio)อาจสูงถึง 23 เท่า

 

\'โกลด์แมน แซคส์\' ชี้หุ้นเมกะแคปหนุนตลาด ส่งดัชนี S&P500 ทะยานแตะ 6,000 จุด

“แม้ว่าความคาดหวังของการเติบโตในระยะยาวของ AI จะดูสูง  แต่ความคาดหวังการเติบโตในระยะยาวและการประเมินมูลค่าสำหรับหุ้น TMT (Technology, Media, and Telecommunications) ที่ใหญ่ที่สุดก็ยังห่างไกลจาก 'ฟองสบู่'”

การมองโลกในแง่ดีของ AI จะดูสูง แต่ความคาดหวังการเติบโตในระยะยาวและการประเมินมูลค่าสำหรับหุ้น TMT ที่ใหญ่ที่สุดก็ยังห่างไกลจากขอบเขต ฟองสบู่ คอสตินระบุ
 

ในปีนี้ ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้นเกือบ 10% ในปีนี้ ปิดตลาดที่ 5,234.18 จุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้นักยุทธศาสตร์หลายคนปรับเพิ่มการคาดการณ์ในสิ้นปี จากปัจจัยหนุนหลายอย่างทั้งข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่แข็งแกร่ง ความคาดหวังที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย และแนวโน้มเชิงบวกของหุ้นกลุ่ม AI 

อย่างไรก็ตาม ตลาดส่วนใหญ่ยังคงถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงเป็นเวลานาน ประกอบกับต้นทุนเงินทุนที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้นักลงทุนมองหาหุ้นที่มีคุณภาพสูง ซึ่งเป็นหนึ่งปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยลดลง อาจทำให้ตลาดหุ้นฟื้นตัว

โกลด์แมน ประเมินอนาคตดัชนี S&P 500 


ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์ ได้ประเมินสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของดัชนี S&P 500 ในอนาคต นอกเหนือจากแรงหนุนหุ้นเมกะแคป ซึ่งมีหลายสถานการณ์ด้วยกัน

  • สถานการณ์ที่ 1 คือ ดัชนีปรับตัวขึ้น "ไล่ตาม" มูลค่าก่อนเกิดโควิดในปี 2561 สถานการณ์นี้อาจทำให้ดัชนี S&P 500 อยู่ที่ 5,800 จุด ณ สิ้นปี
  • สถานการณ์ที่ 2-3 คือตลาดหุ้นมีแนวโน้ม " bearish " หรือตลาดหมี ทำให้นักลงทุนประมาณการณ์ยอดขายเติบโตสูงเกินจริง ("catch-down") หรือนักลงทุนเริ่มประเมินราคาหุ้นโดยคำนึงถึงความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย กล่าวคือ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ไหนในสองข้อหลัง ดัชนี S&P 500 อาจอยู่ที่ 4,500 จุด ณ สิ้นปี นักยุทธศาสตร์กล่าว

 

อ้างอิง Bloomberg