แบงก์จ่อยืดหนี้ ITDไปต่อ จับตา 29 มี.ค. ส่งงบปี 66 หากเลื่อนฉุดเชื่อมั่น

แบงก์จ่อยืดหนี้ ITDไปต่อ  จับตา 29 มี.ค. ส่งงบปี 66 หากเลื่อนฉุดเชื่อมั่น

จับตาระเบิดเวลางบการเงินปี 2566 ของ ITD หลัง 29 มี.ค.67 นี้ ถึงกำหนดส่งตลาดหลักทรัพย์ฯ โบรกเกอร์ ชี้หากขอเลื่อนถือเป็นความเสี่ยงรอบใหม่ เหตุกระทบเชื่อมั่น ลุ้น “แบงก์เจ้าหนี้” ยื่นเงื่อนไขช่วยขยายเวลาจ่ายคืนเงินต้น - ดอกเบี้ย จนกว่าจะมีรายได้เข้ามาต่อลมหายใจ 

กลับมาเป็นสร้างความกังวลให้กับตลาดเงิน - ตลาดทุนอีกครั้ง สำหรับ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD เนื่องจากในวันที่ 29 มี.ค.2567 จะถึงกำหนดเดดไลน์ที่บริษัทแจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า จะสามารถส่งงบการเงินไตรมาส 4 ปี 2566 และงบการเงินประจำปี 2566 ได้ 

หลังจากก่อนหน้านี้ ไอทีดีขอเลื่อนส่งงบการเงิน โดยให้เหตุผลว่าอยู่ระหว่างผู้ตรวจบัญชีดำเนินการตรวจสอบข้อมูล จนส่งผลให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องขึ้นเครื่องหมาย “SP” หรือการหยุดการซื้อขายหุ้นชั่วคราว แต่ความกังวลปะทุขึ้นจากกรณีที่บริษัทขาดสภาพคล่องหนักจนไม่มีเงินจ่ายค่าแรงคนงาน ก่อนจะหาเงินมาจ่ายได้ ดังนั้น หาก 29 มี.ค.67 นี้ ไอทีดีไม่ส่งงบการเงินปี 2566 จะเกิดอะไรขึ้น 

แบงก์จ่อยืดหนี้ ITDไปต่อ  จับตา 29 มี.ค. ส่งงบปี 66 หากเลื่อนฉุดเชื่อมั่น

นายสุทธิชัย คุ้มวรชัย หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน  บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด เปิดเผยว่า ในวันศุกร์นี้ (29 มี.ค.67) ทางไอทีดีควรจะต้องนำส่งงบการเงินไตรมาส 4 ปี 2566 และงบปี 2566 รอบนี้ให้ได้ตามกำหนด เนื่องจากข้อมูลในงบการเงินจะสะท้อนถึงปัญหาที่แท้จริงที่เกิดขึ้น และจะได้มีแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างไร

โดยหากไอทีดีไม่สามารถส่งงบการเงินได้หรือเลื่อนการส่งงบการเงินอีกครั้ง และถูกตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นเครื่องหมายแจ้งเตือน และยังถูกห้ามซื้อขายต่อ มองว่าจะยิ่งกระทบต่อความเชื่อมั่น ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงรอบใหม่ ที่ใหญ่มากกว่ารอบที่มีปัญหาเรื่องหุ้นกู้ เนื่องจากจะกลายเป็นปัญหาแบบงูกินหางอีกรอบ เพราะมีหลายฝ่ายที่ได้รับผลกระทบ

 

ทั้งนี้ ยังกระทบถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาสภาพคล่องของไอทีดี เนื่องจากบริษัทอาจจะไม่สามารถหาแหล่งเงินทุนช่องทางอื่นๆ ได้ ทั้งการออกหุ้นกู้ และการกู้ยืมเงินจากต่างประเทศ 

เขา บอกต่อว่า สถาบันการเงินที่เคยให้วงเงินกู้กับไอทีดี คาดว่าครั้งนี้น่าจะไม่ปล่อยวงเงินกู้ใหม่ให้แล้ว แต่เชื่อว่าแบงก์เจ้าหนี้จะมีการเจรจาช่วยเหลือด้านสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจต่อได้ เช่น การเลื่อนการจ่ายดอกเบี้ย หรือจ่ายเงินต้นออกไปก่อน เพื่อให้โอกาสกับไอทีดีได้ตั้งตัว และผ่านพ้นช่วงวิกฤติไปให้ได้ก่อน จนกว่าไอทีดีจะมีรายได้กลับมาจ่ายคืน 

สะท้อนผ่านช่วงที่ผ่านมาไอทีดีมีความพยายามที่จะขายสินทรัพย์เพื่อหาเงินมาแก้ไขปัญหาสภาพคล่อง เช่น อยู่ระหว่างการพิจารณาขายเหมืองโปแตช และมีโอกาสที่มีขนาดรายการมากกว่า 1.9 หมื่นล้านบาท โดยไอทีดีได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาคัดเลือก และเจรจา ผู้ร่วมทุนที่จะเข้ามาลงทุนในบางส่วน และเมื่อการดําเนินการเสร็จสิ้น บริษัทจะแจ้งให้ทราบต่อไป

พร้อมกันนี้ ในส่วนของภาระการตั้งสำรองหนี้ของแบงก์ที่ปล่อยกู้ให้ไอทีดี นอกจาก ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) ที่ได้ชี้แจงชัดเจนแล้ว อาจต้องรอติดตามว่าแบงก์อื่นๆ มีหนี้เท่าไร และจะสำรองหนี้ในช่วงที่เหลืออย่างไรอาจจะเป็นปัจจัยกดดันหุ้นแบงก์กลุ่มนี้อยู่ 

ดังนั้น จะเห็นได้ว่าในช่วงไตรมาส 2 ปี 2567 หุ้นกลุ่มแบงก์ไม่เป็นหุ้นเด่นที่แนะนำ และหากนักลงทุนถือหุ้นกลุ่มนี้อยู่หากมีกำไรแล้ว ขายเพื่อลดความเสี่ยงจากปัญหาไอทีดีจนกว่าจะมีข้อมูลที่ชัดเจนจากแบงก์อื่นๆ ที่คาดว่าคงจะออกมาให้ข้อมูลเช่นเดียวกับ KTB แต่หากนักลงทุนมองว่า เศรษฐกิจในช่วงที่เหลือปีนี้ยังฟื้นตัวดี เป็นบวกต่อหุ้นแบงก์ ซึ่งแนะนักลงทุนยังสามารถ “ถือ” ข้ามความเสี่ยงนี้ไปได้

นายกระทรวง จารุศิระ หรือ “ซัน” นักลงทุนรายใหญ่ มีมุมมองในหุ้น ITD ว่า เชื่อว่าสุดท้ายแบงก์เจ้าหนี้จะต้องมีเงื่อนไขช่วยเหลือไอทีดี เนื่องจากจะปล่อยให้บริษัทล้มไม่ได้ เพราะว่าจะมีผลกระทบเป็นวงกว้าง ซึ่งที่ผ่านมาปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาของไอทีดีมาจากขาดสภาพคล่องรุนแรง ส่วนหนึ่งมาจากที่บริษัทลงทุนในโครงการต่างๆ ทั้งใน และต่างประเทศไม่เป็นไปตามที่มองไว้ตั้งแต่ต้น ส่งผลให้ฐานะการเงินเริ่มมีปัญหา เนื่องจากแต่ละโครงการที่ลงทุนไม่สร้างรายได้เข้ามา 

ส่วนไอทีดีจะถึงขั้นต้องยื่นล้มละลายไหม ส่วนตัวมองว่า อาจจะไม่ยื่นล้มละลาย แต่จะใช้วิธีการปรับโครงสร้างหนี้กับแบงก์มากกว่า เนื่องจากไอทีดียังมีโครงการที่อยู่ดำเนินการหลายโครงการ และหลักๆ เป็นโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ  ซึ่งหากยื่นล้มละลายจะมีผลกระทบต่อเนื่องอีก  

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์