ดาวโจนส์ร่วงในกรอบแคบ หลังปธ.เฟดชี้ยังไม่มีแนวโน้มลดดอกเบี้ย
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันพุธ(3 เม.ย.)ปรับตัวร่วงลง 43 จุด หลังประธานเฟดชี้ยังไม่มีแนวโน้มของการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 43.10 จุด หรือ 0.10% ปิดที่ 39,127.14 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 5.68 จุด หรือ 0.11% ปิดที่ 5,211.49 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 37.01 จุด หรือ 0.23% ปิดที่ 16,277.46 จุด
ทั้งนี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวแสดงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐ และการใช้นโยบายการเงินของเฟด
"เรากำลังใช้เครื่องมือของเราในการทำให้เงินเฟ้อปรับตัวลงสู่ระดับ 2% ขณะที่รักษาความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจเช่นกัน" นายพาวเวลกล่าวที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด
นอกจากนี้ นายพาวเวลกล่าวย้ำว่า เฟดไม่ได้เร่งรีบในการผ่อนคลายนโยบายการเงิน
"เราไม่ได้คาดหวังว่าเป็นเรื่องเหมาะสมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจนกว่าเราจะมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเงินเฟ้อกำลังปรับตัวลงสู่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน เมื่อพิจารณาถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจและความคืบหน้าเกี่ยวกับเงินเฟ้อจนถึงขณะนี้ เราจะปล่อยให้ข้อมูลที่เข้ามาเป็นปัจจัยชี้นำการตัดสินใจด้านนโยบายของเรา ตัวเลขการจ้างงานและเงินเฟ้อในระยะนี้ต่างก็อยู่สูงกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ แต่ข้อมูลดังกล่าวไม่ได้เปลี่ยนแปลงภาพรวมอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งยังคงบ่งชี้การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ตลาดแรงงานที่มีการปรับสมดุล ขณะที่เงินเฟ้อกำลังปรับตัวลงสู่ระดับ 2% แม้บางครั้งอาจไม่ต่อเนื่อง" นายพาวเวล กล่าว
ถ้อยแถลงของนายพาวเวลในวันนี้ สอดคล้องกับสิ่งที่เขากล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งนายพาวเวลกล่าวแสดงความเห็น หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ว่า แม้ว่าดัชนี PCE สอดคล้องกับที่เฟดคาดการณ์ไว้ แต่เฟดจะไม่รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่เศรษฐกิจมีการขยายตัวที่แข็งแกร่ง และเงินเฟ้ออยู่สูงกว่าเป้าหมายของเฟด
"เราจำเป็นต้องเห็นความคืบหน้ามากขึ้นเกี่ยวกับเงินเฟ้อก่อนที่จะทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากการตัดสินใจเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก ทำให้เราต้องใช้ความระมัดระวังในเรื่องนี้" นายพาวเวลกล่าว