PSL กำไรสุทธิ Q1/67 แล่นฉิว 409 ล้านบาท เพิ่ม 420% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน
บมจ. พรีเชียส ชิพปิ้ง (PSL) เปิดกำไรสุทธิ Q1/2567 เท่ากับ 409 ล้านบาท เพิ่ม 420% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน รายได้ต่อวันต่อลำเรือเฉลี่ยสูงกว่าประมาณการเกินเท่าตัว อีกทั้งได้กำไรอัตราแลกเปลี่ยนจากบาทอ่อน และยังขายเรือได้อีก 1 ลำกำไร 51.15 ล้านบาท
บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSL แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า (มหาชน) บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้ต่อวันต่อลำเรือเฉลี่ยสำหรับไตรมาสแรกอยู่ที่ 12,433 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแสดงถึงผลการดำเนินงานของกองเรือของบริษัทฯ ต่อวันต่อลำเรือเปรียบเทียบกับดัชนีค่าระวางเรือ ค่าใช้จ่ายในการเดินเรือต่อวันต่อลำเรือเฉลี่ยของบริษัทฯ อยู่ที่ 5.379 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าประมาณการที่บริษัทฯ ตั้งไว้สำหรับปีนี้ที่ 5,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อวันต่อลำเรือ และสูงกว่าค่าใช้จ่ายในการเดินเรือเฉลี่ยที่เกิดขึ้นจริงในช่วงไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้วที่ 5,231 ดอลลาร์สหรัฐต่อวันต่อสำเรือ บริษัทฯ มีรายได้ก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อม (EBITDA) อยู่ที่ 20.18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และบริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 1 1.39 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยกำไรสุทธิต่อหุ้นหน่วยเป็นเงินสกุลไทยบาทอยู่ที่ 0.26 บาทต่อหุ้น
สำหรับไตรมาสสิ้นสุด 31 มีนาคม 2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิรวม 409.48ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรสุทธิรวม 78.69 ล้านบาทสำหรับไตรมาสแรกของปี 2566 เหตุผลหลักของการเปลี่ยนแปลงมีดังนี้
1. รายได้จากการเดินเรือสุทธิ (รายได้จากการเดินเรือสุทธิจากรายจ่ายท่าเรือและน้ำมันเชื้อเพลิง) สำหรับไตรมาสแรกปี 2567 สูงกว่ารายได้จากการเดินเรือสุทธิจากไตรมาสแรกปี 2566 คิดเป็นร้อยละ 32 รายได้เฉลี่ยต่อวันต่อลำเรือเพิ่มขึ้นจาก 10,022 เหรียญสหรัฐในไตรมาสแรกปี 2566 เป็น 12,433 ดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสแรกปี 2567 กองเรือของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 มีจำนวน 37 ลำ
2. ค่าใช้จ่ายในการเดินเรือของไตรมาสแรกปี 2567 เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลขในไตรมาสแรกปี 2566 สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและสำรวจเรือ รวมถึงการอ่อนค่าของสกุลเงินบาทเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เมื่อพิจารณาเป็นเงินเหรียญสหรัฐค่าใช้จ่ายในการเดินเรือเฉลี่ยต่อวันต่อลำเรือ (OPEX) (รวมค่าเสื่อม/ค่าใช้จ่ายตัดบัญชีสำหรับค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและสำรวจเรือ) เพิ่มขึ้นจาก 5,231 เหรียญสหรัฐในไตรมาสแรกปี 2566 เป็น 5,379 ดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสแรกปี 2567
3. ค่าใช้จ่ายทางการเงินสำหรับไตรมาสแรกปี 2567 เพิ่มขึ้นจำนวน 16.37 ล้านบาทเมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลขในไตรมาสแรกปี 2566 โดขสาเหตุหลักเนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย SOFR
4. กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับไตรมาสแรกปี 2567 อยู่ที่ 20.56 ล้านบาทโดยเหตุผลหลักมาจากการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าที่เทียบเท่าในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐของหนี้สินสกุลเงินบาท
5. ในไตรมาสแรกปี 2567 บริษัทฯ มีกำไร 51.15 ล้านบาทจากการขายเรือ 1 ลำ