GPSC กำไรสุทธิ Q1/67 ทำได้ 864 ล้านบาท ลดลง 254 ล้านบาท YoY

GPSC กำไรสุทธิ Q1/67 ทำได้ 864 ล้านบาท ลดลง 254 ล้านบาท YoY

บมจ. โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) กำไรสุทธิ Q1/67 ทำได้ 864 ล้านบาท สูงขึ้น 81% จาก Q4/66 ทว่าลดลง 23% หากเทียบ Q1/66 สาเหตุหลักจากอัตรากำไรการขายไฟฟ้าผลิตโดยใช้เชื้อเพลิงน้ำมันดีเซลแทนก๊าซธรรมชาติของโรงไฟฟ้าศรีราชาลดลงจากปีก่อนหน้า และส่วนแบ่งกำไรเงินลงทุนน้อยลง

นายทิติพงษ์ จุลพรศิริดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า งบการเงินของบริษัทฯ และบริษัทย่อยสำหรับงวด 3 เดือน สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567 มีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่จำนวน 864 ล้านบาท

กำไรขั้นต้นของบริษัทฯ ในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 จำนวน 5,060 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้น 206 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิของบริษัทฯ จำนวน 864 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิของบริษัทฯ ที่ลดลง 254 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2566 โดยมีสาเหตุหลักมาจาก margin การขายไฟฟ้าจากการผลิตโดยใช้เชื้อเพลิงน้ำมันดีเซลแทนก๊าซธรรมชาติของโรงไฟฟ้าศรีราชาลดลงจากปีก่อนหน้า ซึ่งสอดคล้องกับแผนการเรียกรับไฟฟ้าของ กฟผ.
 

ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานในส่วนของโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) เพิ่มขึ้น จาก margin จากการขายไฟฟ้าให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมปรับตัวสูงขึ้น จากปัจจัยค่า Ft ที่สามารถสะท้อนต้นทุนราคาพลังงานได้ดีขึ้นจากปีก่อน ประกอบกับปริมาณการขายไฟฟ้าให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น

ทว่าเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 4 ปี 2566 กำไรขั้นต้นของบริษัทฯ ปรับตัวดีขึ้น 828 ล้านบาท และกำไรสุทธิของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น 386 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจากผลการดำเนินงาน ในส่วนของโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) เพิ่มขึ้นจาก margin การขายไฟฟ้าให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมปรับตัวสูงขึ้น และปริมาณการขายไฟฟ้าให้แก่ กฟผ. และลูกค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร และค่าบำรุงรักษาลดลงตามฤดูกาลจากไตรมาสก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าลดลงบางส่วน โดยสาเหตุหลักจากส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนใน XPCL และ CFXD จากปัจจัยทางด้านฤดูกาล และผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากเงินกู้ยืมต่างประเทศของโครงการ CFXD ที่อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินดอลลาร์ไต้หวันอ่อนค่าเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ตามลำดับ ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนใน AEPL ปรับตัวสูงขึ้น จากจำนวนโครงการที่มีการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้นประกอบกับปริมาณขายไฟฟ้าที่ปรับขึ้นตามฤดูกาล

ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 309,891 ล้านบาทมีหนี้สินรวม 189,397 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้น 120,493 ล้านบาท