กำไร บจ. ปี 67 แตะ 1.78 แสนล. หนุนดัชนีหุ้นไทย เพิ่มประมาณ EPS ล่าสุด 94 บาท

กำไร บจ. ปี 67 แตะ 1.78 แสนล. หนุนดัชนีหุ้นไทย เพิ่มประมาณ EPS ล่าสุด 94 บาท

บล.เอเชีย พลัส เผย สัญญาณบวกจากกำไร บจ.ชัดเจนขึ้น ปัจจุบันออกมาแล้ว 56% ของ MARKET CAP มีกำไรสุทธิ 1.78 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 92% และสูงกว่า CONSENSUS คาด 4.5% EPS ล่าสุดที่ 94 บาท/หุ้น เชื่อสัญญาณบวกผลประกอบการช่วยหนุนให้ SET INDEX ยืนระดับสูงขึ้นได้

บล.เอเชีย พลัส ระบุผ่านบทวิเคราะห์ว่า สัญญาณบวกจากกำไร บจ.ชัดเจนขึ้น โดยปัจจุบันประกาศออกมาแล้ว 56% ของ MARKET CAP มีกำไรสุทธิ 1.78 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 92%QOQ และสูงกว่า CONSENSUS คาด 4.5% นอกจากนี้เห็นสัญญาณการปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2567 โดย CONSENSUS แสดง EPS ล่าสุดที่ 94 บาท/หุ้น เชื่อว่าสัญญาณบวกของผลประกอบการดังกล่าวน่าจะช่วยหนุนให้ SET INDEX ยืนที่ระดับสูงขึ้นได้ แต่ก็ยังต้องรอแรงขับเคลื่อนจากปริมาณการซื้อขายที่มากพอเข้ามาเสริม 

ส่วนปัจจัยในต่างประเทศ ให้น้ำหนักไปที่การประกาศตัวเลขเงินเฟ้อเดือน เม.ย.ของสหรัฐ ซึ่งตลาดคาดว่าน่าจะอยู่ท่ 3.4% YOY เทียบกับเดือน ก่อนหน้าที่ 3.5% ทั้งนี้ประเด็นดังกล่าวจะถูกนำมาตีความเรื่องแนวทางการลดดอกเบี้ยของ FED โดยหากออกมาตามคาดถือเป็นปัจจัยบวกในทางพื้นฐาน SET INDEX มีแรงหนุนที่ชัดเจนจากผลประกอบการและเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว แต่การที่ยังขาดปริมาณการซื้อขายที่มากพอทำให้ยัง อยู่ในกรอบ 1362 –1377 จุด TOP PICK เลือก BCH, CBG และ WHA

กำไร บจ. ปี 67 แตะ 1.78 แสนล. หนุนดัชนีหุ้นไทย เพิ่มประมาณ EPS ล่าสุด 94 บาท

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯรอตัวเลข CPI เดือน เม.ย.67 ที่จะประกาศวันพุธนี้ ซึ่งตลาดคาด +3.4%YOY ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ +3.5%YOY ส่วน CORE CPI คาด +3.6%YOY ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ +3.8%YOY เช่นกัน แต่ต้องรอดูว่าตัวเลขจะออกมาสูงหรือต่ำกว่าคาดอย่างไร

กำไร บจ. ปี 67 แตะ 1.78 แสนล. หนุนดัชนีหุ้นไทย เพิ่มประมาณ EPS ล่าสุด 94 บาท

ทำให้ตลาดคาดหวังว่า FED จะผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้น โดยล่าสุดอ้างอิงจาก FED WATCH TOOL ตลาดคาด FED ลดดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือน 9 และตลาดคาด FED ลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง ในปี 2567เหลือ 5.0%(เดิมช่วงปลายเม.ย.67 คาดลด 1 ครั้งเหลือ 5.25%)

กำไร บจ. ปี 67 แตะ 1.78 แสนล. หนุนดัชนีหุ้นไทย เพิ่มประมาณ EPS ล่าสุด 94 บาท

ขณะที่ปัจจัยอื่นๆ ล้วนสดใส และหนุนนำให้สินทรัพย์เสี่ยงน่าสนใจต่อไป โดยเริ่มจาก

1.อังกฤษ(UK)ประกาศตัวเลข GDP 1Q67 +0.6%QOQ ซึ่งหลุดพ้นความกังวลการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยหลังจากที่ GDP 4Q66 -0.35QOQ

2.การประชุม OPEC+ ในช่วงที่เหลือของปี 2567 มีโอกาสที่จะคงการลดกำลังการผลิตไว้ที่ 2 ล้านบาร์เรลต่อวันจนถึงสิ้นปี 2567(เป็นเรื่องที่ตลาดตอบรับไปแล้ว) และล่าสุดอิรักเผย จะไม่ร่วมขยายการลดกำลังผลิตน้ำมันในการประชุม OPEC+ เดือนหน้า(ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับที่ 2 ของกลุ่ม OPEC)ซึ่งประเด็นดังกล่าวทำให้ราคาน้ำมันดิบมีโอกาสทยอยปรับตัวลงในระยะถัดไป และเห็นเม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงได้

กำไร บจ. ปี 67 แตะ 1.78 แสนล. หนุนดัชนีหุ้นไทย เพิ่มประมาณ EPS ล่าสุด 94 บาท

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยภายนอกดูดีทั้ง CPI สหรัฐฯที่คาดจะลดลง, อังกฤษหลุดพ้นความกังวล TECHNICAL RECESSION และ OPEC+ คาดลดกำลังการผลิตเท่าเดิมจนถึงสิ้นปี ซึ่งเป็นประเด็นที่ตลาดตอบรับไปแล้ว ประเด็นดังกล่าว ส่งผลให้เห็นวัฎจักรดอกเบี้ยขาลงทั่วโลกชัดเจนขึ้น และหนุนสินทรัพย์เสี่ยงน่าทยอยสะสมส่วนวันนี้ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของ SET INDEX ไว้ที่ระดับ 1362-1377 จุด