EA เผย Adder หมดครั้งแรกแค่โครงการเดียว ครึ่งหลังรุกตลาด EV ปีนี้ส่งมอบ 5 พันคัน

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ปรับตัวลงอย่างหนัก (13 พ.ค.2567) หลังจากที่ระยะเวลาการรับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล หรือ ค่า Adder ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 90 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดนครสวรรค์ กำหนดหมดระยะเวลาลงเป็นครั้งแรกในไตรมาส 1/2567 จำนวน 327 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวกดดันให้ผลประกอบการไตรมาส 1/67 หดตัวลง
 

อมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ให้ข้อมูลกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ค่า Adder เริ่มหมดครั้งแรก โดยบริษัทฯ มีแผนงานรุกตลาด EV ที่จะมารองรับในส่วนของ Adder ที่กำลังจะหมด ซึ่งทางบริษัททราบดีอยู่แล้วว่า Adder มีระยะเวลากำหนดที่จะครบอายุอยู่แล้ว โดยบริษัทได้มีการพัฒนารถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน

ทั้งนี้งบไตรมาส 1/2567 ที่ออกมา ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่า รัฐบาลชุดใหม่ที่เข้ามาบริหารค่าไฟในครั้งนี้ทำให้ค่าเอฟทีลดลง จึงทำให้มีรายได้ในส่วนนี้หายไปพอสมควร ประกอบกับโรงไฟฟ้า หากเทียบ QoQ ปีนี้ 2567 และปีที่แล้ว 2566 ทั้งโซล่าและพลังงานลม ไตรมาส 1/67 ผลิตไฟได้น้อยกว่าไตรมาส 1/66 ของปีที่แล้ว ทำให้ผลประกอบการดูดรอปไปจากปีที่แล้ว ส่วนเอฟเฟกเรื่องของ Adder หมดเป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ทำให้ตัวเลขผลประกอบการหดหายไป

แต่อย่างไรก็ตาม ตัวเลขของผลประกอบการที่หายไป ไม่ได้เกิดจาก Adder ที่หายไปทั้งหมด เนื่องจาก Adder ที่หายไปมีเพียงโรงงานเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นแค่ส่วนหนึ่งของสิ่งมันเกิด แต่เหตุที่ตัวเลขเปลี่ยนแปลงไป เกิดจากหลายปัจจัย อย่างโรงไฟฟ้าลมและแสงอาทิตย์เป็นเรื่องธรรมชาติ บางทีอาจจะอิงกับสถิติไม่ได้ว่า ไตรมาส 1 จะเป็นประมาณนี้ตลอด เพียงแต่ว่า โดยเฉลี่ยทั้งปีอาจจะอยู่ที่ค่าเฉลี่ยค่าหนึ่ง ว่าปีหนึ่งอาจจะทำได้ประมาณเท่านี้ เพียงแต่ว่าในปีนี้จะไปอยู่ในไตรมาสใดมากหรือน้อย

ขณะที่ในส่วนของ EV ตลาดดีขึ้นต่อเนื่อง ถ้ารวมในปีนี้ถือว่ายังขายได้เยอะ เพียงแต่ว่าการส่งมอบไม่ได้มีการเฉลี่ยในทุกไตรมาส ก็จะมีบางไตรมาสมากบ้างหรือน้อยบ้าง

อย่างไรก็ดี แนวโน้มตลาด EV ถือว่าดี เนื่องจากตลาดมีการยอมรับมากขึ้น บวกกับราคาของรถไฟฟ้าที่ถูกลง ส่งผลให้ลูกค้าคิดง่ายขึ้นที่จะเปลี่ยน

โดยแผนงานครึ่งปีหลัง รุกขายรถไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งตัวเลขในตลาดถือว่าดี เพียงแต่ว่า ยังไม่ได้ออกมาคึกคักมากนักในขณะนี้ แต่ภาพรวมทั้งปียังเป็นไปตามที่บริษัทคาดไว้ที่ประมาณ 5,000 คัน ซึ่งจะเริ่มทยอยส่งมอบออกไปได้เป็นช่วง ๆ 

สำหรับกําไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 1/2567 อยู่ที่ 888.70 ล้านบาท ลดลง 1,431.06 ล้านบาท หรือลดลง 61.7% จาก 1/66 ที่ 2,319.76 ล้านบาท ส่วน บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวมสําหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ที่ 5,881.06 ล้านบาท ลดลงจํานวน 290.71 ล้านบาท หรือลดลง 4.7% จาก ไตรมาสที่ 4 ปี 2566 ที่ 6,171.77 ล้านบาท และลดลง 3,023.11 ล้านบาท หรือลดล 34.0% จาก ไตรมาสที่ 1 ปี 2566 ที่ 8,904.17 ล้านบาท

EA มีรายได้จากธุรกิจกลุ่มต่างๆ จำแนกได้ดังนี้ ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน, ธุรกิจรถโดยสารไฟฟ้าและรถเพื่อการพาณิชย์, ธุรกิจไบโอดีเซล, ธุรกิจแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน และธุรกิจอื่นๆ

สำหรับรายได้หลักคือ กลุ่มธุรกิจโรงไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน ไตรมาส 1/2567 ทำได้ 2,560.12 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวก้นปีก่อน ร้อยละ 26.9 เนื่องจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์พื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ได้หมดระยะเวลาการรับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล (adder) ในวันที่ 23 ธ.ค. 2566 และโรงไฟฟ้าพลังงานลมโครงการหนุมานพื้นที่จังหวัดชัยภูมิผลิตกระแสไฟฟ้าลดลงจํานวน 44.48 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง หรือลดลงร้อยละ 30.9 รวมถึงผลกระทบจากการปรับลดค่า FT ของทางภาครัฐในไตรมาส 1/2567 (Q1/2567 FT 0.2934 บาท/หน่วย, Q1/2566 FT 1.2597 บาท/หน่วย)

อย่างไรก็ตาม เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนหากมองถึงกําลังการผลิตรวมในกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ยังคงผลิตกระแสไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นจาก 168.46 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง เป็น 173.06 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง

เนื่องจากความเข้มของแสงที่เพิ่มขึ้นและจากการเปลี่ยนแผงโซล่าเซลล์ในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จังหวัดลําปาง จังหวัดนครสวรรค์และจังหวัดพิษณุโลกเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากขึ้น และโรงไฟฟ้าพลังงานลมโครงการหาดกังหันผลิตกระแสไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นจาก 64.35 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง เป็น 67.21 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง

กลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้หลักรองลงมาคือรถโดยสารไฟฟ้าและรถเพื่อการพาณิชย์ ไตรมาส 1/2567 ทำได้ 1,796.29 ล้านบาท ลดลงจํานวน 2,191.58 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 55.0 จาก ไตรมาส 1/2566 ที่จํานวน 3,987.87 ล้านบาท เนื่องจากมียอดส่งมอบรถโดยสารไฟฟ้าและรถเพื่อการพาณิชย์ลดลงจํานวน 440 คัน

ล่าสุดบริษัทร่วมลงทุนเพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในการบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดแบบรวมศูนย์ของประเทศลาว และลงทุนในโครงการที่เพิ่มมูลค่าเพิ่มเติมรวมทั้งส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศลาว

กรรณ์ หทัยศรัทธา นักกลยุทธ์ฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน สายงานวิจัย บล.ซีจีเอส ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ไว้ก่อนหน้าว่า หุ้น EA ที่ปรับร่วงลงมาเราคาดว่า เป็นไตรมาสแรกที่ไม่ค่า  Adder (อัตราค่าไฟฟ้าส่วนเพิ่ม) ของโรงไฟฟ้าเริ่มทยอยหมด และตัวเลข EV ทั้งยอดขาย และราคา ตัวเลขดรอปลงมาตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา ยอดขายของจำนวนรถ และยอดขายของราคารถปรับตัวลงมา

โดยแนะนำนักลงทุนว่า รอดูหุ้นสร้างฐานได้ รวมถึงการประชุมนักวิเคราะห์อีกทีหนึ่งว่า EA จะมีแผนการดำเนินงานเพิ่มเติมอะไรบ้างในอนาคต ในช่วงครึ่งปีหลัง