MOSHI งบ Q1/67 กำไรพุ่ง 44.5% ขายสินค้ามาร์จิ้นสูงมากขึ้น - เร่งเพิ่มร้านสาขา
โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น (MOSHI) เผย Q1/67 รายได้ดำเนินงาน 691 ล้านบาท เพิ่ม 22.9% เทียบ Q1/66 และกำไรสุทธิ 125 ล้านบาท เพิ่ม 44.5% ผลดีขายของมาร์จิ้นสูงมากขึ้น ขยายสาขา บริหารต้นทุนดี ปีนี้เร่งเพิ่มเป้าเปิดสาขาร้าน Moshi Moshi จากแผนเดิมแค่ 20 สาขา เป็น 30 สาขา หวังปี 68 ยอดขายติดปีก
บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MOSHI เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ผลการดำเนินงานงบการเงินรวมไตรมาสที่ 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.67 กำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ 125.38 ล้านบาท (กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.38 บาท) เพิ่มจากไตรมาสที่ 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.66 ซึ่งทำได้ 86.73 ล้านบาท (กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.26 บาท) คิดเป็น 44.55%
สอดคล้องกับอัตรากำไรสุทธิต่อรายได้ซึ่งไตรมาส 1/2567 อยู่ที่ 18.0% สูงกว่าไตรมาส 1/2566 ซึ่งอยู่ที่ 15.3% จากการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนการขายสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง การประหยัดต่อขนาด (Economy of Scale) จากการขยายสาขา ตลอดจนความสามารถในการบริหารต้นทุนของบริษัท ที่มีประสิทธิภาพ
นายสง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MOSHI เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 บริษัท มีรายได้จากการดำเนินงาน 691.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยมีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มค้าปลีก 563.90 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 82% กลุ่มค้าส่ง 111.75 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 16% และช่องทางการจัดจำหน่ายอื่น 16.15 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 2% ส่งผลให้มีรายได้รวม 695.75 ล้านบาท เติบโต 23.1% และทำกำไรสุทธิได้ 125.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นการทำรายได้ และกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ปัจจัยมาจากรายได้จากการขายของสาขาเดิม และรายได้จากสาขาใหม่ที่เปิดสาขาเพิ่ม 9 สาขาในไตรมาสแรกปีนี้ ซึ่งรวมถึงสาขา Stand Alone แห่งแรกในเชียงราย ปัจจุบันได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จึงมีแผนขยายสาขาในรูปแบบดังกล่าวเพิ่มเติมในอนาคต
ประกอบกับในปีที่ผ่านมาบริษัท ได้เปิดร้านแนวคิดใหม่ภายใต้ชื่อ Garlic เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นไปในแนวทาง Chic & Cool ซึ่งแตกต่างไปจากผลิตภัณฑ์ของ Moshi ปัจจุบันมีสาขาภายใต้ชื่อ Garlic ทั้งสิ้น 3 สาขา
อีกทั้งบริษัท ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคกว่า 3,000 SKUs ในหลากหลายรูปแบบ และประเภทสินค้า มีการนำเสนอสินค้าไอเทมใหม่ๆ ให้เหมาะสมกับ Seasonal Effect เช่น ปีใหม่ วันเด็ก วันวาเลนไทน์ เป็นต้น
พร้อมกันนี้ ยังพบการเติบโตของยอดขายจากช่องทางออนไลน์ที่เติบโต 340.8 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากยอดจองซื้อสินค้าคอลเลกชันลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์ศิลปินเกาหลีชื่อดัง ที่มีการสั่งจองล่วงหน้าจากช่วงสิ้นปี 2566 อีกทั้ง ได้ทำการตลาด และโปรโมชันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้รับผลตอบรับอย่างดี
“เราเห็นการฟื้นตัวของสาขาที่มีนักท่องเที่ยวเป็นลูกค้าหลักซึ่งคิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 20% ของรายได้รวม บริษัท คาดว่าภาคการท่องเที่ยวจะทยอยปรับตัวดีขึ้นจากการยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทาง หรือวีซ่าฟรีให้แก่นักท่องเที่ยวชาวจีน และคาซัคสถาน ซึ่งคาดว่าจะทยอยกลับไปสู่ระดับก่อนโควิดได้ในปีถัดไป” นายสง่า กล่าว
ด้านแผนการดำเนินงานในปี 2567 ยังได้ปรับเพิ่มเป้าหมายการเปิดสาขาร้าน Moshi Moshi ใหม่ในปีนี้ จากเดิมที่ตั้งไว้ที่ 20 สาขา เพิ่มเป็น 30 สาขา (รวม Stand Alone) โดยมีแผนเปิดให้ครอบคลุมจังหวัดใหม่ๆ เพิ่มอีกประมาณ 10 จังหวัด ที่ยังไม่เคยมีสาขาของร้าน Moshi Moshi
ปัจจุบันบริษัท มีสาขาค้าปลีก และค้าส่งที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งสิ้น 140 สาขา (ณ สิ้นไตรมาส 1/2567) แบ่งเป็น ร้านค้าปลีกแบรนด์ Moshi Moshi จำนวน 133 สาขา, ร้านค้าส่งแบรนด์ Moshi Moshi จำนวน 2 สาขา, ร้าน Garlic 3 สาขา, ร้านค้าส่ง Giant 1 สาขา และร้านค้าส่ง The OK Station 1 สาขา
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์