TOA เผย Q1/67 กำไร 804 ล้าน พุ่ง 27% "ประจักษ์ - ละออ" คุมบนเก้าอี้ ประธานผู้ก่อตั้ง
TOA รายได้ Q/67 ลดราว 4% อยู่ที่ 5,485 ล้านบาท มองกำลังซื้อลด ยอดหดทุกช่องทางขายโมเดิร์นเทรดอ่วม ทว่ากำไรยังโต 27% แตะ 804 ล้านบาท มาร์จิ้นดีขึ้น อัตราแลกเปลี่ยน และมูลค่ายุติธรรมพลิกบวก ด้านบอร์ดมีมติยก "ประจักษ์ - ละออ ตั้งคารวคุณ" ขึ้นปรึกษา เป็นตัวแทนกิจการ สัญญาจ้าง 1 ปี 10 ล้านบาท
นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2567 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567 บริษัทมีกำไรส่วนผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่ 804.04 ล้านบาท (กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.40 บาท) จากไตรมาส 1/2566 กำไรส่วนผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่ ทำได้ 631.97 ล้านบาท (กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.31 บาท) คิดเป็นการปรับขึ้น 27.22%
คำอธิบาย และวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการระบุว่า บริษัท มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท ที่เพิ่มขึ้นมีสาเหตุหลักจากกำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ในไตรมาส 1 ปี 2567 บริษัท มีการปรับผลต่างจากอัตราแลกเปลี่ยน และปรับมูลค่ายุติธรรมสินทรัพย์ทางการเงิน รวมเป็นกำไรจำนวน 149.7 ล้านบาท ในขณะที่ไตรมาส 1 ปี 2566 รวมเป็นผลขาดทุนจำนวน 18.6 ล้านบาท
ทั้งนี้ อัตรากำไรสุทธิเทียบต่อรายได้รวม เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 11.1 ในไตรมาส 1 ปี 2566 เป็นร้อยละ 14.7 ในไตรมาส 1 ปี 2567
สำหรับ กำไรขั้นต้น ไตรมาส 1/2567 เท่ากับ 1,943.8 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 35.8 ปรับตัวสูงขึ้น (ช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ร้อยละ 32.9) จากการจัดการ การบริหารด้านวัตถุดิบ และการบริหารต้นทุนการผลิตที่ได้ประสิทธิภาพมากขึ้นทำให้ต้นทุนเฉลี่ยโดยรวมลดลง
ส่วนรายได้รวมไตรมาส 1/2567 เท่ากับ 5,485.2 ล้านบาท ลดลงจาก 1/2566 ที่ทำได้ 5,704.5 ล้านบาท สอดคล้องรายได้จากการขาย ไตรมาส 1 (สามเดือน) ปี 2566 และ 2567 เป็นเงิน 5,653.5 ล้านบาท และ 5,427.7 ล้านบาทตามลำดับ
รายได้จากการขาย ไตรมาส 1 ปี 2567 ลดลง 225.8 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 4.0 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการชะลอตัวของกิจกรรมเศรษฐกิจภายในประเทศ อันเนื่องมาจากการชะลอการอนุมัติงบประมาณจากภาครัฐภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น และหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและกำลังซื้อของลูกค้าที่ลดลง
อีกทั้งยังกระทบกับภาคอสังหาริมทรัพย์ และความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างที่ชะลอตัวลง ทั้งนี้ยอดขายทั้งจากผลิตภัณฑ์สีทาอาคาร และผลิตภัณฑ์ และสารเคลือบผิว และผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นปรับตัวลดลงตามลำดับ และชะลอตัวลงในทุกช่องทางการขาย โดยเฉพาะช่องทางค้าปลีกสมัยใหม่
นอกจากนี้ นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ยังแจ้งเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/2564 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 14 พ.ค.2567 ซึ่งไม่รวมกรรมการที่มีส่วนได้เสีย ได้มีมติอนุมัติให้บริษัท เข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกันดังนี้
บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้รับบริการ จะรับบริการจาก นายประจักษ์ ตั้งคารวคุณ และนางละออ ตั้งคารวคุณ โดยจะเข้าเป็นที่ปรึกษาในตำแหน่ง "ประธานผู้ก่อตั้ง" และ "รองประธานผู้ก่อตั้ง" ตามลำดับ เพื่อให้คำปรึกษาเกี่ยวกับธุรกิจสี และเคมีก่อสร้างแก่คณะกรรมการบริหาร ตลอดจนผู้บริหารและพนักงาน ตามความเหมาะสม
รวมถึงเป็นตัวแทนในนามของบริษัท ในการเข้าร่วมประชุมที่เกี่ยวเนื่องกับการสร้างความสัมพันธ์ หรือการสร้างโอกาสทางธุรกิจ เพื่อเสริมสร้างเครือข่ายธุรกิจทั้งที่มีอยู่ในปัจจุบัน และในอนาคตกับทั้งคู่ค้า และพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของบริษัท
การกำหนดค่าตอบแทนไปตามที่คู่สัญญาได้ตกลงกัน โดยพิจารณาจากขอบเขตหน้าที่การปฏิบัติงาน และประโยชน์ที่บริษัท จะได้รับมีระยะเวลาในการทำ
สัญญา ในระหว่างวันที่ 16 พ.ค.2567 - 15 พ.ค.2568 โดยมีค่าตอบแทน ดังนี้
1. นายประจักษ์ ตั้งคารวคุณ ค่าตอบแทนปีละ 5,500,000 บาท โดยแบ่งจ่ายค่าตอบแทนเป็นรายเดือน
2. นางละออ ตั้งคารวคุณ ค่าตอบแทนต่อปี 4,800,000 บาท โดยแบ่งจ่ายค่าตอบแทนเป็นรายเดือน
โดยนับรวมรายการทั้ง 2 รายการคิดเป็นเงินรวม 10,300,000 บาท
นอกเหนือจาก 2 บุคคลจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ทั้งทางตรง และทางอ้อมใน TOA แล้ว (นับรวมการถือหุ้นทั้งตรงและทางอ้อมเท่ากับร้อยละ 39.0) ยังมีฐานะเป็นบุพการีของ กรรมการสำคัญของบริษัท 3 คนได้แก่ 1.นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ, 2.นายณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ และ 3. นางบุศทรี หวั่งหลี
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์