CPF คาดยอดขายปี 67 โต 10% แวว Q2 งบสวยคุมต้นทุนดี ลงทุน 1.5 หมื่นล้านเร่งกำไร
ประธาน CPF ชี้เป้ายอดขายปี 67 โต 8-10% ดีมานด์ฟื้น ราคาเนื้อสัตว์ดีขึ้น มอง Q2/67 งบสวยกว่า Q1/67 ที่พลิกกำไรแล้ว ยิ้มต้นทุนอาหารเลี้ยงสัตว์ลดลงน่าพอใจ หลังจากปีก่อนข้าวโพดแพงโหด วางงบลงทุน 1.5 หมื่นล้าน มุ่งพัฒนาเชิงประสิทธิภาพด้วยเทคนิควิศวกรรม และ AI ดันฐานกำไรเสถียร
นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF กล่าวว่า คาดการณ์ยอดขายรวมปี 2567 ขยายตัว 8-10% เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของความต้องการเนื้อสัตว์ที่เริ่มกลับมา ขณะที่ราคาขายดีขึ้นแล้ว ที่สำคัญสินค้าของบริษัทเป็นที่รู้จักในวงกว้างยิ่งขึ้นในทั่วโลกจากกลยุทธ์ประชาสัมพันธ์
ทั้งนี้ปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 590,786.78 ล้านบาท
สำหรับไตรมาส 2/2567 ก็ยังมั่นใจเช่นกันว่าผลประกอบการจะสูงขึ้นกว่าไตรมาส 1/2567 โดยทิศทางเนื้อไก่ราคาทั้งในและต่างประเทศปรับเพิ่มดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา ส่วนราคาเนื้อหมูในประเทศระยะสั้นไม่ดีนักแต่ต่างประเทศดียังขึ้นชัดเจน
อีกทั้งวัตถุดิบอาหารสัตว์หลักคือข้าวโพดปีนี้ราคาขยับลงจากปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ระดับสูงแล้วจึงทำให้มั่นใจว่า อัตรากำไรในภาพรวมปี 2567 จะเป็นระดับบวกจากปีก่อนอัตราอัตรากำไรสุทธิติดลบ 0.43% และกำไรรวมมีโอกาสดีกว่าปีก่อนซึ่งขาดทุนถึง 5,207.35 ล้านบาทได้
"ต้นทุนหลักๆ 50-60 % มาจากค่าใช้จ่ายอาหาร ในอดีตราคาข้าวโพดเคยแค่ 6 บาทต่อกิโลกรัม แต่เมื่อปีที่แล้วมันสูงถึง 12.70 บาท สูงสุดในประวัติศาสตร์ที่เราเคยซื้อมา แต่ปีนี้ทุกอย่างค่อยๆ ดีขึ้น ปรับลดลงมาเหลือราวๆ 10 บาท จนเราเริ่มมีกำไรบางๆ บ้างแล้ว และจากนี้น่าจะดีขึ้นได้อีก"
พร้อมกันนี้วางงบลงทุนต่อปี ปี 2567 อยู่ที่ 10,000-15,000 บาท เป็นงบลงทุนรวมทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยหลักเพื่อการสนับสนุนเชิงประสิทธิภาพด้วยการพัฒนาเทคโนโลยี พัฒนาเทคนิควิศวกรรม รวมไปถึงด้านเทคโนโลยี AI เพื่อการเลี้ยงสัตว์
"ประเทศหลักที่เน้นลงทุนเพิ่มคือฟิลิปปินส์ส่วนประเทศอื่นๆ จะเน้นด้านการปรับปรุง เช่นการให้อาหารไก่โดยควบคุมปริมาณเหมาะสมที่สุดของแต่ละช่วงเวลาชีวิตสัตว์เลี้ยง ลดการเหลือวัตถุดิบส่วนเกิน การเฝ้าตรวจติดตาม สัตว์ที่เลี้ยงด้วยเทคโนโลยีกล้อง AI ถ้าเราทำเรื่องเหล่านี้สำเร็จ ต่อไปต้นทุนจะเสถียรขึ้นอย่างมาก"
