วิเคราะห์อนาคตหุ้น Nvidia หลัง ‘แตกพาร์’ คาดมูลค่าแซงไมโครซอฟท์แตะ 5 ล้านล้านดอลลาร์

วิเคราะห์อนาคตหุ้น Nvidia หลัง ‘แตกพาร์’ คาดมูลค่าแซงไมโครซอฟท์แตะ 5 ล้านล้านดอลลาร์

Nvidia แตกพาร์ครั้งสำคัญ โอกาสทองครั้งเดียวให้รายย่อยเข้าซื้อได้ นักวิเคราะห์ตั้งราคาเป้าหมายที่ 1,500 ดอลลาร์ ในฐานะผู้นำเมกะเทรนด์ AI คาดมาร์เก็ตแคปบริษัทพุ่งแตะ 5 ล้านล้านดอลลาร์ แซงหน้าไมโครซอฟท์

เว็บไซต์ยาฮู ไฟแนนซ์รายงานว่า บริษัท “อินวิเดีย” (Nvidia) ผู้ผลิตชิปประมวลผลกราฟิกสำหรับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ประกาศแตกพาร์หุ้น จาก 1 หุ้น เป็น 10 หุ้น เริ่มวานนี้(10 มิ.ย.2567) นี้ ทำให้ Nvidia กลายเป็นบริษัทเทคโนโลยีลำดับที่ 4 ในกลุ่ม 7 หุ้นนางฟ้า ฉายา"Magnificent 7" ที่ประกาศแตกหุ้น การเคลื่อนไหวครั้งสำคัญนี้ ส่งผลให้ Nvidia กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดแตะ 3 ล้านล้านดอลลาร์ รั้งที่ 3 เป็นรองแค่แอปเปิ้ล(Apple) และไมโครซอฟท์ (Microsoft) 

การแยกหุ้นของ Nvidia มีอัตรา 10 ต่อ 1 หมายความว่า นักลงทุนปัจจุบันทุกคนจะได้รับหุ้นเพิ่มอีก 9 หุ้น สำหรับทุกๆ 1 หุ้นที่ถืออยู่ และราคาหุ้นของ Nvidia ปรับตัวลดลง 10 เท่าหลังการแยกหุ้น แต่มูลค่ารวมของการถือครองของนักลงทุนยังคงเท่าเดิม

ตามการวิเคราะห์ของแบงก์ออฟอเมริกาในอดีตระบุว่า การแตกหุ้นมักจะเป็นไปในทางที่ดีขึ้นสำหรับบริษัทที่ประกาศใช้นโยบายดังกล่าว โดยจะมีผลตอบแทนเฉลี่ยในหนึ่งปีที่ 25% เทียบกับหุ้นอื่นในตลาดอยู่ที่ประมาณ 12% 

‘แตกหุ้น’ ดึงดูดนักลงทุนรายย่อย

อดัม คูนส์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของบริษัท Winthrop Capital คาดการณ์ว่า การแยกหุ้นของ Nvidia ครั้งนี้ จะช่วยกระตุ้นความสนใจจากนักลงทุนรายย่อย แต่การไหลเข้าของรายย่อยจำนวนมาก อาจส่งผลต่อความผันผวนของราคาหุ้น

"นักลงทุนรายย่อยเหล่านี้อาจตัดสินใจซื้อขายหุ้นได้รวดเร็ว และด้วยอารมณ์มากกว่านักลงทุนสถาบัน ซึ่งอาจนำไปสู่ความผันผวนที่เพิ่มสูงขึ้น เมื่อจำนวนนักลงทุนสถาบันที่ซื้อหุ้นลดลง"

จูเลียน อีแมนนูเอล จาก Evercore ISI มองว่าความผันผวนที่เพิ่มขึ้นของราคาหุ้น Nvidia เป็นโอกาสทอง สำหรับการเข้าซื้อหุ้นของคนรุ่นใหม่ในหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำของยุคนี้

กิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า อาจมีการเก็งกำไรจากการแตกพาร์ เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.67 เพราะฉะนั้นจะทำให้นักลงทุนที่มีหุ้น Nvidia ในพอร์ตมากๆ  อาจจะมีการทยอยเทขายออกมาบ้างเพื่อทำกำไร และด้วยความที่เป็นหุ้นใหญ่จึงต้องมีความระมัดระวังเพราะจะเป็นตัวฉุดให้หุ้นสหรัฐผันผวนได้ในสัปดาห์นี้

‘1,500 ดอลลาร์’ ราคาเป้าหมายของหุ้น Nvidia 

ตามข้อมูลของซิลเวอร์แบลตต์ ราคาหุ้น Nvidia ที่พุ่งทะยานได้กลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ผลักดันให้ตลาดหุ้นสหรัฐ แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐในปี 2567 นั้น 1 ใน 3 มาจาก Nvidia และมากกว่า 1 ใน 4 ของการฟื้นตัวในเดือนพฤษภาคม มาจาก Nvidia

วิเวก อารยา นักวิเคราะห์จากแบงก์ ออฟ อเมริกา ปรับราคาเป้าหมายของหุ้น Nvidia ขึ้นสู่ระดับสูงสุดของตลาดที่ 1,500 ดอลลาร์ โดยมองว่า Nvidia อยู่ในช่วงเริ่มต้นของ "เมกะเทรนด์" ที่มุ่งสู่ AI ขั้นสูงซึ่งจะกินเวลานานนับ 10 ปี โดยคาดว่าการใช้จ่ายในตลาดนี้จะอยู่ที่ 2.5 - 5 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี ซึ่งแน่นอนว่า Nvidia จะเป็นผู้เล่นหลักในการขับเคลื่อนตลาดนี้

มาร์เก็ตแคป Nvidia อาจเท่า GDP เยอรมนี

การแตกหุ้น Nvidia ไม่เพียงแต่ส่งสัญญาณถึงความเชื่อมั่นของฝ่ายบริหารต่อบริษัทชิปยักษ์ใหญ่เท่านั้น แต่ยังแสดงถึงความกระตือรือร้น และการมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับศักยภาพในการเติบโตของอุตสาหกรรม AI ในวงกว้างอีกด้วย

นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าการเติบโตของ Nvidia ยังไม่สิ้นสุด โดย หลุยส์ นาเวลิเยร์ ผู้เชี่ยวชาญตลาดหุ้นคาดการณ์ว่า Nvidia  มีศักยภาพที่บริษัทจะมีมูลค่าตลาด 5 ล้านล้านดอลลาร์ในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งหากบรรลุเป้าหมายนี้ Nvidia จะมีมูลค่าใหญ่กว่า GDP ของประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก

5 ปัจจัยดันหุ้น Nvidia ไปต่อ

เว็บไซต์อินเวสติ้งดอทคอมเผย 5 ปัจจัยสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นของ Nvidia ในระยะกลาง และยาว

1. เงินปันผลที่เพิ่มขึ้น

Nvidia เพิ่งประกาศเพิ่มเงินปันผล 150% แต่อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปัจจุบันยังต่ำอยู่ที่ 0.4-0.5% ซึ่งถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับการเติบโตของราคาหุ้น อย่างไรก็ตาม Nvidia ยังคงจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งน่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาหุ้นปันผลในระยะยาว

2.ผู้นำชิป AI 

 Nvidia วางแผนที่จะเปิดตัวชิป AI รุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยรักษาความเป็นผู้นำในตลาดที่กำลังเติบโต โดยชิปตัวใหม่ๆ ซึ่งรวมถึง Blackwell Ultra ที่จะวางจำหน่ายในปี 2568 และแพลตฟอร์ม Rubin ที่จะวางจำหน่ายในปี 2569 ล้วนมี ประสิทธิภาพที่เหนือกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างมาก

3. รายได้ และกำไรโตแกร่ง

Nvidia รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2567 เผยกำไรสุทธิพุ่งสูงถึง 628% และรายได้เพิ่มขึ้น 268% โดยรายได้หลักมาจากส่วนดาตาเซนเตอร์ที่ได้เพิ่มขึ้น 427% สะท้อนถึงความต้องการชิป AI ในดาตาเซนเตอร์ที่ร้อนแรง

4. เพิ่มคาดการณ์รายได้: Nvidia เพิ่มการคาดการณ์รายได้สำหรับไตรมาสที่ 2 ปี 67 เป็น 2.8 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าประมาณการของนักวิเคราะห์ ที่ 2.6. หมื่นล้านดอลลาร์ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจ         ของบริษัทสำหรับแนวโน้มธุรกิจที่สดใส

5. การแยกหุ้น

Nvidia มีการแตกหุ้น อาจดึงดูดนักลงทุนรายย่อยเข้ามาลงทุนในหุ้น และกระตุ้นให้ราคาหุ้นเพิ่มสูงขึ้น

 

อ้างอิง  finance.yahoo finbold investing

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์