MINT เด่นสวนกระแสโลว์ซีซันท่องเที่ยว บอลยูโร 2024 ดันยอดที่พักยุโรปทะลัก
หุ้น MINT สวนกระแสโลว์ซีซันเที่ยวไทย อานิสงส์เต็มยูโร 2024 ดันยอดที่พักยุโรปทะลัก อีกทั้งโอลิมปิกช่วง ก.ค.- ส.ค. ช่วยต่อยอดความสดใส ดันงบกลางปีเด่น ส่วนปัญหาทัวร์ใหญ่อันดับ 3 ยุโรปเจ๊ง ชี้ผู้ประกอบการไทย 3 ราย MINT, CENTEL และ SHR มียอดค้างแค่ 10 ล้านบาท ขนหน้าแข้งไม่ร่วง
ผู้สื่อข่าวรายงานราคาหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวภาพรวมรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา เป็นราคาลดลงชัด สอดคล้องกับบรรยากาศลงทุน อีกทั้งเดือนมิ.ย. ถือเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวต่ำ หรือ Low Season ของผู้ประกอบการโรงแรมอยู่แล้ว
อ้างอิงราคาปิด 15 หลักทรัพย์ในกลุ่มหมวดท่องเที่ยวกระดาน SET รอบ 1 เดือนสิ้นสุด 13 มิ.ย.2567 พบปรับลงถึง 12 หลักทรัพย์ สูงสุดคือ บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน) หรือ GRAND ลบ 15.38% ส่วนที่สามารถบวกได้สูงสุดคือ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT บวก 15.15%
บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง ระบุว่า จากตัวเลขนักท่องเที่ยวในเดือนพ.ค. และ มิ.ย. อ่อนตัวลง ซึ่งเป็นปกติของ Low Season โดยเดือนที่ดีที่สุดของ Low Season ปกติจะอยู่ที่ ก.ค. - ส.ค. ที่นักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า มีโอกาสมากกว่าสงกรานต์ จากนักท่องเที่ยวจีนที่เป็นช่วงปิดเทอม ดังนั้นไตรมาส 2 และ 3 ปี 2567 น่าจะไม่ได้แย่ขนาดนั้น
ทั้งนี้แนะนำ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT เป็น 1 ในหุ้นเด่นของกลุ่ม เพราะแตกต่างจากโรงแรมอื่นๆ โดย High Season ในยุโรป คาด NH-Hotel มี RevPar เพิ่ม 8% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ช่วง เม.ย. - พ.ค. และเดือนมิ.ย. ยอดจองเพิ่มจากฟุตบอลยูโร 2024
ขณะที่ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ให้น้ำหนักในการลงทุนหุ้นกลุ่มนี้มากกว่าตลาด ซึ่ง MINT จะได้รับประโยชน์จากการจัดกีฬาฟุตบอลยูโร 14 มิ.ย.2567-14 ก.ค.2567 และกีฬาโอลิมปิกช่วง 26 ก.ค.2567-11 ส.ค.2567 ซึ่งตรงกับช่วง High Season ของฤดูกาลท่องเที่ยวในยุโรป ทำให้ช่วงผลักดัน Demand ด้านการท่องเที่ยวที่มีอยู่ก่อนแล้วตามฤดูกาลให้สูงขึ้นอีก ที่ช่วยผลักดัน RevPAR ในยุโรปของบริษัทให้สูงขึ้น
ขณะที่รายได้จากฝั่งประเทศไทย ถึงแม้จะเป็นช่วง Low Season ตามฤดูกาล แต่ก็มีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจากภาครัฐที่ช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวขึ้นกว่าที่ตลาดคาด จากสัดส่วนตามโครงสร้างรายได้ของบริษัท ที่มียุโรป และประเทศไทยรวมกว่า 75% ทำให้ทางฝ่ายวิเคราะห์มีมุมมองเป็นบวกต่อรายได้บริษัทในช่วงไตรมาส 2 และ 3 ปี 2567
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีรายงานจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เกิดเหตุการณ์โรงแรมไทยบางแห่งอาจสูญเงิน 111 ล้านบาท จากกรณีหลังบริษัททัวร์ FTI ของเยอรมนี ใหญ่อันดับสามในยุโรปล้มละลาย โดย บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินผลกระทบเชิงลบต่อหุ้นโรงแรมในไทยจำกัด จากการเช็กข้อมูลเบื้องต้นผู้ประกอบการโรงแรมในไทย MINT, CENTEL และ SHR มียอดค้างชำระจากบริษัทดังกล่าวอยู่ราว 10 ล้านบาท ทั้งนี้ถือว่าไม่ได้มีนัยต่อผลประกอบการมากนัก
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์