‘uptick’ เริ่ม1 ก.ค. โบรกคาดชอร์ตยาก-กระทบรายใหญ่

     นาย รองรักษ์ พนาปวุฒิกุล รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานกฎหมาย และหัวหน้ากลุ่มงานเลขานุการองค์กร และกำกับองค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า มาตรการเพิ่ม Uptick Rule รายหลักทรัพย์จะเริ่มใช้มาตรการได้ภายในวันที่1 ก.ค. 2567 ตามที่แผนงานระบุไว้ช่วงปลายไตรมาส 2 ซึ่งทาง ตลท. จะมีการแถลงทำความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าวก่อนใช้จริงวันที่ 18 มิ.ย. นี้

     หลังจากได้มีการทดสอบระบบซอร์ฟแวร์เวนเดอร์ และโบรกเกอร์ มีปัญหาแค่บางจุด อย่าง บางโบรกเกอร์ที่มีผู้ดูแลสภาพคล่องในสินค้าตราสารอนุพันธ์ หรือ Market Maker ทำให้ต้องมาปรับระบบกันใหม่อาจจะต้องใช้การแยกระบบส่งออร์เดอร์จึงใช้เวลาพอสมควรแต่สามารถแก้ไขและทำตามได้ตามกำหนด

   

      สำหรับมาตรการ Uptick Rule เป็นหนึ่งในมาตรการลดความผันผวนที่ผิดปกติของราคาหลักทรัพย์ โดยกำหนดให้ขายชอร์ต (ในทุกหลักทรัพย์) ได้ในราคาที่สูงกว่าราคาซื้อขายครั้งสุดท้าย (ปัจจุบันให้ขายชอร์ตได้ที่ราคาเท่ากับหรือสูงกว่า Zero-plus Tick )

      นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การปรับระบบซอร์ฟแวร์ไปใช้ Uptick Rule เป็นการปรับใหญ่และมีผลต่อระบบการซื้อขาย ทั้งนักลงทุนทั่วไปและ Market Maker เพราะทุกคำสั่งที่ทำการขายชอร์ตต้องมีเครื่องหมาย S กำกับและต้องถูกต้องตามเกณฑ์ตลท. ด้วยจากเดิมที่ใช้ Zero-plus Tick ทำให้ต้องมั่นใจว่าเป็นระบบที่ใช้งานได้จริงไม่มีข้อผิดผลาด

 

      โดยเฉพาะโบรกเกอร์ที่เป็น Market Maker มีการออกตราสาร DR หรือ DW เป็นต้น ซึ่ง เป็นการทำเพื่อวัตถุประสงค์ป้องกันความเสี่ยง (Hedge Position ) ไม่ได้ทำเพื่อเทรดดิ้ง อย่าง นักลงทุนทั่วไป แต่เป็นการดูแลสภาพคล่องในสินค้าที่ออกเสนอขายทำให้ระบบต้องไม่มีปัญหาไม่อย่างนั้นก็จะไม่มีใครทำสินค้านี้ออกมาขายอีก

     “การทำ Uptick Rule ไม่ใช่ใส่เครื่องหมาย S แล้วจบแต่การชอร์ตที่ราคา 10 บาทหรือ 0.10 บาท ไม่เหมือนกันเพราะต้องตามเกณฑ์หลักทรัพย์ที่ Short Selling ได้ แต่การเป็น Market Maker รอไม่ได้ต้องทำระบบให้ชัวร์ดีกว่าไปผิดพลาดที่หลัง ซึ่งการใช้ Uptick Rule เพื่อแก้ปัญหาการขายชอร์ตไม่ใช่ปัจจัยทั้งหมดที่ทำให้หุ้นขาลงและหาว่าเป็นฆาตกรฆ่าหุ้นนั้นหุ้นนี้ ”

      นางบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ทางบริษัทมีความพร้อมในการดำเนินการนำ Uptick Rule มาใช้ ซึ่งอยู่ที่ตลท. แล้วจะให้ดำเนินการได้เมื่อไรแต่เท่าที่พูดคุยยังเดินหน้าและใช้มาตรการดังกล่าวให้เร็วที่สุดโดยไม่มีการเลื่อนเวลาออกไป

     อย่างไรก็ตามมาตรการดังกล่าวไม่ได้ช่วยเพิ่มวอลุ่มในตลาดที่เป็นปัญหาขณะนี้ แต่เป็นการชะลอขาขายออกไปถ้าตลาดหุ้นภาวะกระทิงแทบไม่ต้องใช้ แต่พอตลาดอยู่ในภาวะขาลงนักลงทุนที่ต้องการป้องกันความเสี่ยงด้วยการชอร์ตเช่น สถาบัน หรือ รายใหญ่ ก็จะถูกกระทบไม่กล้าลงทุนเข้าไปอีก

“ปัญหาตลาดหุ้นไทยวันนี้สภาพคล่องไม่มี วอลุ่มหายไปเป็นปัญหาใหญ่มากกว่าจะทำอย่างไรให้ฟันด์โฟลว์กลับมา เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องแก้ไขภาพรวมตรงนี้ ”