‘กรณ์ จาติกวณิช’ มองหุ้นไทยไม่น่าลงทุน จนกว่ามีมาตรการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทย

‘กรณ์ จาติกวณิช’ มองหุ้นไทยไม่น่าลงทุน  จนกว่ามีมาตรการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทย

‘กรณ์ จาติกวณิช’ ยังมองหุ้นไทย ไม่น่าลงทุน เหตุกำไร บจ.ไม่โต - จีดีพีไทยโตต่ำยาวนาน 10 ปี ต่างลุ้นจนกว่ารัฐมีมาตรการระยะยาวปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยชัดเจน ดึงฟันด์โฟลว์กลับ หากยังเป็นมาตรการระยะสั้น อาจคึกคักแค่ชั่วคราว แนะใช้โมเดลเดียวกับฟื้นตลาดหุ้นญี่ปุ่นซึมนาน

นายกรณ์ จาติกวณิช ประธานกรรมการและกรรมการอิสระ Finnomena และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในช่วงปี 2551-2553  มีมุมมองส่วนตัวต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยว่า สำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นไทยนั้น มองว่า ยังไม่น่าลงทุนตั้งแต่ปลายปีก่อนจนถึงปัจจุบัน และในระยะถัดไป เพราะยังไม่เห็นความชัดเจนหรือแนวทางในการปรับปรุงการแก้ไขอะไรที่ตอบได้ว่า ต้องกลับมาลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้แล้ว

รวมถึงจากการวิเคราะห์ทางการเงิน และครบทุกความเสี่ยง   พบว่าตลอด 10 ปีที่ผ่านมา กำไร บจ.ไม่โตมานาน จากปัจจัยหลักจากเศรษฐกิจไทย โตต่ำเช่นกัน ด้วยปัญหาเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข นักลงทุนต่างชาติทิ้งหุ้นไทยถึง1 ล้านล้านบาท 

จากปัจจัยดังกล่าว นายกรณ์ มองว่า ตลาดหุ้นไทยยังไม่น่าลงทุน ทั้งทางด้านคุณภาพ และราคา  ซึ่งทุกวันนี้นักลงทุนพูดเสียงเดียวกันหมดว่าหุ้นไทยไม่มีอนาคต และหันไปพึ่งพาการลงทุนสินทรัพย์ลงทุนในต่างประเทศให้ผลตอบแทนในอนาคตที่ดีกว่า

แต่อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวยังคาดหวังว่า จะลาหรือถอยจากการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเพียงชั่วคราวเท่านั้น   พร้อมกับมองว่า หากจะให้ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัว และนักลงทุนหันกลับมาลงทุนในตลาดหุ้นไทย ต้องมาพร้อมกับเศรษฐกิจไทยต้องกลับมาเติบโตต่อเนื่อง 10 ปี  เพื่อหนุนให้กำไร บจ. เติบโตในระดับที่ดีต่อผู้ถือหุ้นรายย่อย และนักลงทุน 

ดังนั้นมาตรการของ 3 หน่วยงาน กระทรวงการคลัง ก.ล.ต และตลท. ในการขับเคลื่อนตลาดทุน ในช่วงเย็นวันนี้ มองว่า  ต้องเป็นมีมาตรการระยะยาว ที่เข้ามาแก้ไขปัญหา และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจไทย  เช่น มาตรการเพิ่มคุณภาพ บจ.และการเพิ่มอุตสาหกรรมสมัยใหม่เข้ามามากขึ้นจากปัจจุบันที่มีแต่อุตสาหกรรมตกยุคแล้ว  หากมีสัญญาณมาตรการเหล่านี้ชัดเจน จะช่วยดึงฟันด์โฟลว์ต่างชาติกลับมาได้  แต่หากเป็นเพียงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น  มองว่าตลาดหุ้นไทยอาจคึกคักแค่ชั่วคราวเท่านั้น 

“ส่วนประเด็นปัญหาชอร์ตเชล ปั่นหุ้น มองว่าก็เป็นของนักลงทุนแค่บางกลุ่ม ผสมกับประเด็นที่มีผลต่อเศรษฐกิจไทย ทำให้มีผลกับบรรยากาศ และความเชื่อมั่นต่อตลาดหุ้นไทยที่ลดลงไปทำให้นักลงทุนรู้สึกหมดหวัง เริ่มเบื่อ ทำให้ตลาดหุ้นไทยซึมยาว” 

นายกรณ์ กล่าวว่า บางประเทศ บางตลาดหุ้นที่ซึมมายาวนาน หุ้นจะดีขึ้นได้ต้องมีมาตรการภาครัฐมาสนับสนุน  ขอยกตัวอย่าง ตลาดหุ้นญี่ปุ่นนโยบายการเงินญี่ปุ่น ทำให้หลุดจากยุคเงินฝืด และมีการปรับทัศนคติ บจ.ขนาดใหญ่ ให้มีวัฒนธรรมของผู้ถือหุ้นใหญ่ ปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินธุรกิจ มาเพื่อผู้ถือหุ้นรายย่อย ให้ได้ประโยชน์เพิ่มขึ้น 

 

“แนวทางรัฐบาลจะใช้กระตุ้นตลาดหุ้นญี่ปุ่น ตอนแรกก็ยังไม่ชัดเจน  แต่เมื่อเริ่มทำมาต่อเนื่อง จนนักลงทุนต่างประเทศเริ่มเชื่อมั่น ก็เห็นเงินลงทุนไหลกลับมา มองว่าตลาดหุ้นไทยตอนนี้ก็เหมือนกันเราต้องมีมาตรการที่ทำให้ชัดเจน และต่อเนื่อง” 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์