SINGER แจกแจงหนี้หมื่นล้านของ SGC ทยอยครบชำระถึง Q1/69
"ซิงเกอร์ประเทศไทย" เผยสรุปรายการหนี้เดิมที่ SGC มีต่อ SINGER ณ 31 มี.ค. 67 รวมเงินต้นได้ 10,373 ล้านบาท มีกำหนดทยอยชำระ Q2/67 ไปถึง Q1/69 ส่วนแนวทางชำระหนี้หุ้นกู้ SINGER ทั้ง 2 ชุด รวม 3,700 ล้านบาท ที่ครบกำหนด 24 ก.ย. 67 และ 6 ก.พ. 68 คาดหาเงินสดได้พอ
บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER เปิดเผยข้อมูลผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นอยู่ในสัดส่วนร้อยละ 74.92 ของทุนชำระแล้วทั้งหมดได้รับความช่วยเหลือทางการเงินจาก SINGER โดยอนุมัติวงเงินกู้ยืมจำนวนไม่เกิน 6,100 ล้านบาท เพื่อเป็นวงเงินสำรองแก่ SGC ในการเบิกใช้เพื่อชำระหนี้เดิมที่มีอยู่กับบริษัท
ะยะเวลาการเบิกใช้สินเชื่อตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 - 31 ธันวาคม 2568 โดย SGC มีสิทธิขอเบิกใช้สินเชื่อได้หลายคราว โดยการเบิกใช้สินเชื่อแต่ละคราวจะเกิดขึ้นเมื่อเป็นไปตามเงื่อนไขดังนี้ 1.หนี้เดิมที่ SGC มีต่อบริษัทถึงกำหนดชำระ และ 2.SGC มีความจำเป็นต้องรักษาสภาพคล่องทางการเงินเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
ระยะเวลาการกู้ยืม ไม่ว่าจะเบิกใช้สินเชื่อในคราวใดก็ตาม ต้นเงินและดอกเบี้ยทั้งหมดจะต้องชำระคืนภายในเดือนธันวาคม 2571
การชำระคืน ชำระดอกเบี้ยในวันทำการสุดท้ายของเดือน และชำระเงินต้นภายใน 31 ธันวาคม 2571 อย่างไรก็ตาม หาก SGC มีสภาพคล่องส่วนเกิน ก็สามารถชำระคืนเงินต้นทั้งหมดก่อนครบกำหนดได้
พร้อมกันนี้ได้เปิดเผยสรุปรายการหนี้เดิมที่ SGC มีต่อ SINGER ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 ดังนี้ ตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2567 ถึง ไตรมาส 1 ปี 2569 มีหนี้ครบกำหนดชำระ รวมจำนวน 10,373 ล้านบาท (เงินต้น)
หมายเหตุ:
1) รายละเอียดข้างต้นเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในสัญญาระหว่างบริษัทและบริษัท SGC เท่านั้น ทั้งนี้รายละเอียดสรุปรายการหนี้เดิมข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปในกรณีที่ SGC อาจแสดงความประสงค์ในการขอชำระหนี้ก่อนกำหนด
2) รายละเอียดข้างต้นเป็นข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 อย่างไรก็ดี ในเวลาต่อมาบริษัทได้รับชำระหนี้จาก SGC ในเดือนเมษายน 2567 เป็นจำนวนทั้งสิ้น 200,000,000 บาท ดังนั้น ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 SGC มีต้นเงินกู้ยืมค้างชำระอยู่กับบริษัท เป็นจำนวนรวมทั้งสิ้น 10,172,672,532.53 บาท
พร้อมกันนี้ได้เปิดเผยแนวทางเบื้องต้นในการชำระหนี้หุ้นกู้ของ SINGER โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 บริษัทมีหุ้นกู้ ซึ่งยังไม่ครบกำหนดไถ่ถอนจำนวน 2 รายการ ได้แก่
1. "หุ้นกู้ของบริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2564 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2567" (หุ้นกู้ SINGER249A) ซึ่งมีมูลค่าเงินต้นหุ้นกู้คงเหลือ 2,000 ล้านบาท มีดอกเบี้ยคงที่ในอัตราร้อยละ 5.75% และชำระเงินต้นหุ้นกู้ทั้งหมดในคราวเดียวเมื่อครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 24 กันยายน 2567
2. "หุ้นกู้ของบริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 2/2564 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2568" (หุ้นกู้ SINGER252A) ซึ่งมีมูลค่าเงินต้นหุ้นกู้คงเหลือ 1,700 ล้านบาท มีดอกเบี้ยคงที่ในอัตราร้อยละ 5.7% และชำระเงินต้นหุ้นกู้ทั้งหมดในคราวเดียวเมื่อครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568
ในการนี้ เมื่อพิจารณากระแสเงินสดที่มีอยู่ในปัจจุบันของบริษัท และกระแสเงินสดที่บริษัทจะได้รับเพิ่มเติมจากการประกอบธุรกิจ บริษัทมีความเชื่อมั่นว่าบริษัทจะมีเงินสดเพียงพอต่อการชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอน
นอกจากนี้ การที่ SGC มีแผนที่จะนำเงินสดที่ได้รับจากการประกอบธุรกิจ และการออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนซึ่งเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ มาใช้ชำระหนี้เดิมบางส่วนให้กับบริษัท จึงทำให้บริษัทมีกระแสเงินสดเพิ่มมากขึ้นเพื่อใช้ในการชำระหนี้หุ้นกู้ดังกล่าวและมีเงินทุน
หมุนเวียนสำหรับใช้การประกอบธุรกิจของบริษัทต่อไป
อนึ่ง กรณีที่ SGC ดำเนินการออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนซึ่งเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ดังกล่าว บริษัท จะจัดให้มีการประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการจองซื้อหุ้นของ SGC ดังกล่าวและจะใช้แหล่งเงินทุนจากกระแสเงินสดหลักภายในของบริษัท