อัปเดตเป้าราคาหุ้น OR รวบรวม 9 โบรกให้ 16.50-25 บาท หลัง Q2/67 กำไร 2.5 พันล้าน

อัปเดตเป้าราคาหุ้น OR รวบรวม 9 โบรกให้ 16.50-25 บาท หลัง Q2/67 กำไร 2.5 พันล้าน

รวบรวมคำแนะนำการลงทุนหุ้น OR จาก 9 โบรกเกอร์ให้ราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐานตั้งแต่ 16.50-25 บาทต่อหุ้น หลังเปิดงบ Q2/67 กำไร 2.53 พันล้านบาท ทว่าหุ้นกับทิ้งดิ่งเป็นจุดต่ำสุดใหม่พะวงนโยบายคุมเพดานภาษีน้ำมันส่งผลลบ

หุ้นทำ All Time Low ไม่หยุด

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) ในช่วงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นขาลงชัดเจน โดยเฉพาะหลังจากค่ำวันที่ 8 ส.ค. 2567 รายงาน งบการเงินไตรมาส 2/2567 ออกมาว่า กำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่เท่ากับ 2,536.48 ล้านบาท จากไตรมาสที่ 2/2566 ที่ทำได้ 2,756.46 ล้านบาท และรวม 6 เดือนแรกปี 2567 เท่ากับ 6,259.68 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ทำได้ 5,731.47 ล้านบาท

ทันทีที่เปิดการซื้อขายวันที่ 9 ส.ค. 2567 ราคาหุ้นก็ปรับลงอีกต่อเนื่องกระทั่งปิดต่ำสุดที่ระดับ 14.00 บาท ลดลง 0.80 บาท เปลี่ยนแปลง จากวันทำการที่ผ่านมา 5.41% มูลค่าการซื้อขาย 350.68 ล้านบาท ซึ่งหนาแน่นที่สุดในรอบราว 3 สัปดาห์ อีกทั้งที่ระดับราคาหุ้นล่าสุดนี้ยังเป็นการสร้างจุดต่ำสุดครั้งใหม่อีกแล้ว

หวั่นนโยบายคุมเพดานภาษีน้ำมันส่งผลลบ

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุว่า ราคาหุ้น OR ที่ปรับตัวลง และ Underperform SET ในช่วง 6 เดือน สะท้อนความกังวลต่อความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ (regulatory risk) ที่สูงขึ้นจากการที่กระทรวงพลังงานเตรียมร่าง พ.ร.บ. ฉบับใหม่เพื่อครอบคลุมอำนาจใช้กฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมเพดานภาษีน้ำมันและการใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (oil fuel fund)

ความไม่ชัดเจนของ regulatory risk อาจจะเป็น overhang ต่อราคาหุ้นในระยะสั้นถึงกลางได้

คาดงบไตรมาส 3 อ่อนลงตามปัจจัยฤดูกาล

บล.ดาโอ วิเคราะห์อีกว่า กำไรสุทธิครึ่งแรกของปี 2567 คิดเป็น 53% ของประมาณการกำไรทั้งปีของฝ่ายวิเคราะห์ โดยเชื่อว่ากำไรอาจจะอ่อนตัว QoQ ในไตรมาส 3/2567 ตามปัจจัยฤดูกาลในช่วงฤดูฝนก่อนที่จะฟื้นตัวในไตรมาสสุดท้ายของปี พร้อมคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 และ 2568 ที่ 1.18 หมื่นล้านบาท และ 1.33 หมื่นล้านบาทตามลำดับ สูงขึ้นจาก 1.11 หมื่นล้านบาทในปี 2566

ด้าน บล.ทิสโก้ ระบุว่า OR รายงานกำไรในไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 2.5 พันล้านบาท ลดลง 32% QoQ และ 8% YoY ผลกำไรนี้เป็นไปตามที่คาดหมายและคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 2.7 พันล้านบาท ทั้งปริมาณและมาร์จินในส่วนของธุรกิจ mobility (น้ำมัน) เป็นปัจจัยที่ทำให้ผลกำไรอ่อนแอลงทั้ง QoQ และ YoY กำไรสะสม 6 เดือนนี้คิดเป็น 54% ของประมาณการปีนี้ของฝ่ายวิเคราะห์

คำแนะนำการลงทุนหุ้น OR ล่าสุดจาก 9 โบรกเกอร์ ราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐานตั้งแต่ 16.50-25 บาทต่อหุ้น ดังนี้

บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) แนะนำถือ ราคาเป้าหมาย 16.50 บาท
บล.เอเซีย พลัส แนะนำ Underweight ราคาเป้าหมาย 17 บาท
บล.ทิสโก้ แนะนำถือ มูลค่าที่เหมาะสม 18.20 บาท
บล.ทรีนีตี้ แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 18.20 บาท
บล.บัวหลวง แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 20 บาท
บล.กรุงศรี แนะนำเป็นกลาง ราคาเป้าหมาย 20 บาท
บล.ดาโอ (ประเทศไทย) แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายที่ 21 บาท
บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ แนะนำ Outperform Market ราคาเป้าหมาย 21.70 บาท
บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 25 บาท