XPG มองครึ่งปีหลังธุรกิจฟื้น ย้ำเป้ารายได้ 1 พันล้าน กำไรโต
"เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล" มองครึ่งปีหลังธุรกิจฟื้น ย้ำเป้ารายได้ 1 พันล้าน กำไรขยายตัว ส่วนของธุรกิจโบรกเกอร์เน้นกระจายรายได้ไปยังงานวาณิชธนกิจ ธุรกิจกองทุนจะออกกองใหม่ประเภท Term fund และ Feeder fund ธุรกิจดิจทัลมี Private ICO ปลายปี ส่วนบริหารสินทรัพย์งดซื้อหนี้เพิ่ม
นางสาววรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (XPG) เปิดเผยในงาน Opportunity Day ว่า คาดการณ์ภาพรวมธุรกิจทุกกลุ่มจะมีทิศทางที่ดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังปี 2567 จากปัจจัยบวกบรรยากาศการลงทุนฟื้นตัว รวมถึงการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับภาวะการลงทุนในปัจจุบัน จึงประเมินทั้งปี 2567 รายได้รวมมีโอกาสถึงเป้าหมายที่ระดับ 1,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ 621 ล้านบาท และกำไรสุทธิจะขยายตัวขึ้นเช่นกันจากปีก่อนที่ 106 ล้านบาท
ทั้งนี้ในครึ่งปีแรกที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้แล้ว 407 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 50 ล้านบาท
"ปีนี้จากการคาดการณ์ เราน่าจะมีกำไรและเติบโตกว่าปีที่แล้วได้ ทุกบริษัทลูกในปีนี้จะเน้นออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มากขึ้นในครึ่งปีหลัง"
สำหรับกิจการหลักคือ เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล รายได้ส่วนใหญ่ขับเคลื่อนด้วยรายรับดอกเบี้ยจากการปล่อยสินเชื่อ และรายได้จากเงินปันผลของบริษัทต่างๆ ในกลุ่มได้แก่
บริษัทหลักทรัพย์กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด คาดครึ่งปีหลังจะดีขึ้นสอดคล้องกับภาพการลงทุนในประเทศ อีกทั้งได้ให้น้ำหนักในธุรกิจที่นอกเหนือจากนายหน้าค้าหลักทรัพย์มากขึ้น เช่น งานวาณิชธนกิจ เป็นต้น รวมถึงหวังจะให้บริการผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ (Bond representative license) เพิ่มเติมได้ ในไตรมาส 4/2567
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็กซ์สปริง จำกัด มองครึ่งปีหลังจะเติบโตกว่าครึ่งปีแรกปัจจุบัน ตัวเลข AUM อยู่ที่ราว 8 พันล้านบาท เป้าหมายปีนี้อยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท โดยจะมีการออกสินค้ากองทุนประเภท Term fund และ Feeder fund ส่วนปีหน้าจะมีการเพิ่มสินค้าในฐานตลาดกว้างมากขึ้นโดยใช้ช่องทางแอปพลิเคชันที่คาดจะเปิดตัวใน ก.ย. 2567 เป็นช่องทางขยายตลาด
บริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด เชื่อว่ายังเติบโตได้ เน้นสร้างรายได้จากธุรกิจนายหน้าให้บริการทั้งบริษัทและเทรดเดอร์ ส่วนการออก ICO จะมุ่งเน้นเฉพาะ Private ICO โดยคาดจะได้เห็นดีลปลายปีนี้
และบริษัทบริหารสินทรัพย์ เอ็กซ์สปริง เอ เอ็ม ซี จำกัด ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 มียอดหนี้ในการบริหารจัดการกว่า 4,000 ล้านบาท ตัวเลข NPL อยู่ที่ 33.5% บริษัทไม่มีนโยบายซื้อหนี้เข้ามาบริหารเพิ่มในระยะนี้ แต่จะพยายามเร่งรัดหนี้ ปรับโครงสร้างหนี้กับลูกหนี้ และทยอยขายสินทรัพย์รอการขาย (NPA) ในพอร์ตรองรับแผนในการประมูลหนี้เสียเข้าพอร์ตใหม่ในช่วงต้นปี 2568 หรือช่วงปลายไตรมาส 4/2567