โบรกคาด RS งบ Q3/67 กำไรพิเศษ 500 ล้าน ผลดีขาย"RS UMG" ให้ "Universal Music Group"
"อาร์เอส" ขายหุ้นทั้งหมด 30% ใน "อาร์เอส ยูเอ็มจี" ให้ "ยูนิเวอร์แซล มิวสิค" มูลค่า 605 - 674 ล้าน คาดธุรกรรมแล้วเสร็จ ก.ย. 67 นักวิเคราะห์ "บล.ทรีนีตี้" ชี้หนุนกระแสเงินสดทันที และคาดบันทึกกำไร 500 ล้านในงบ Q3/67 และเพิ่มกำไรทั้งปีเป็น 300-350 ล้าน จากประมาณการเดิมแค่ 148 ล้าน
นายวิทวัส เวชชบุษกร กรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่สายการเงิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) (RS) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 17 ก.ย. 2567 มีมติอนุมัติให้บริษัท อาร์เอส มิวสิค จํากัด (RS MUSIC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.99 จำหน่ายหุ้นบริษัท อาร์ เอส ยูเอ็มจี จํากัด (RS UMG) ออกทั้งหมดที่ถืออยู่ 30%
จำหน่ายแก่ Universal Music Group และ/หรือบริษัทภายในกลุ่มของ Universal Music Group (ผู้ซื้อ) โดยมีมูลค่าซื้อขายทั้งสิ้นเท่ากับ 605.10 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทอาจได้รับค่าตอบแทนเพิ่มเติมจากผู้ซื้ออีกจำนวนไม่เกิน 69.21 ล้านบาท ตามเงื่อนไขที่คู่สัญญาจะได้ตกลงกันต่อไป (ธุรกรรมการจําหน่ายไปซึ่งเงินลงทุนในบริษัทร่วม) และอนุมัติการเข้าทำสัญญาที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมการจําหน่ายไปซึ่งเงินลงทุนในบริษัทร่วม แบบมีเงื่อนไขบังคับก่อน (สัญญาที่ เกี่ยวข้องกับธุรกรรม)
บริษัทคาดจะเข้าลงนามในสัญญาที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมภายในเดือนก.ย. 2567 ซึ่งภายหลังธุรกรรมการจําหน่ายไปซึ่งเงินลงทุนในบริษัทร่วม RS UMG จะสิ้นสภาพการเป็นบริษัทร่วมของบริษัท
อนึ่ง RS UMG ประกอบธุรกิจหลักเกี่ยวกับการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับลิขสิทธิ์เพลง
ผลประโยชน์ที่บริษัทคาดว่าจะเกิดจากธุรกรรมคือบริษัทจะได้รับเงินสดเพื่อใช้ขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัทซึ่งช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขัน และสร้างการเติบโตของผลประกอบการในระยะยาวของบริษัท ส่งเสริมสภาพคล่องทางการเงินของบริษัท และยังคงรักษาความสัมพันธ์กับพันธมิตรที่แข็งแกร่งทางธุรกิจรวมถึงได้รับส่วนแบ่งรายได้จากการรบริหารจัดเก็บลิขสิทธิ์เพลงภายในประเทศไทยได้อย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งบริษัทจะได้มุ่งมั่นพัฒนาคอนเทนต์เพื่อใช้ประโยชน์จากจุดแข็งในการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ Universal Music Group เพื่อสร้างการเติบโตของรายได้จากช่องทางออนไลน์
บริษัทมีแผนการใช้เงินจากการจําหน่ายไปซึ่งหุ้นสามัญใน RS UMG ไปใช้เพื่อเพิ่มสภาพคล่องเป็น ทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินธุรกิจของบริษัทชําระหนี้สิน รวมถึงเป็นแหล่งเงินทุนในการขยายธุรกิจของบริษัทไปยังธุรกิจอื่นๆ ที่มีศักยภาพต่อไปในอนาคต
ด้านบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทรีนีตี้ ระบุว่า ธุรกรรมดังกล่าว จะทำให้ RS มีกระแสเงินสดเพิ่มขึ้น ทันทีกว่า 600 ล้านบาท และคาดจะมีการบันทึกส่วนที่เป็นกำไรราว 500 ล้านบาทได้ในไตรมาส 3/2567 นี้ทันทีส่งผลให้ปี 2567 พลิกกลับมามีกำไรทันที
และคาดว่าจะกำไรปี 2567 จะดีกว่าที่ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินไว้เดิม ซึ่งประมาณการเดิมกำไรปีนี้อยู่ที่ 148 ล้านบาท โดยกำไรจาก Deal นี้ คาดทำให้กำไรของ RS ในปี 2567 เพิ่มขึ้นมาเป็น 300-350 ล้านบาท นอกจากนี้กระแสเงินสดรับที่เพิ่มขึ้นคาด RS จะนำไปลดภาระหนี้น่าจะช่วยให้ดอกเบี้ย ลดลงได้อีก 20-30 ล้านบาท
อีกทั้งมองว่าลิขสิทธิ์ต่างๆ ที่บริษัทถืออยู่มีมูลค่ากว่า 5.3 พันล้านบาท หรือกว่า 2 บาทต่อหุ้น ซึ่งบริษัทสามารถต่อยอดสร้างรายได้ผ่าน Platform ต่างๆ ทั้ง offline, online ที่บริษัทมีรวมถึงการร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ๆ ที่จะช่วย Monetize ลิขสิทธิ์ต่างๆ ที่บริษัทถืออยู่ จึงให้คำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย ปี 2568 ที่ 7.50 บาท