’ก.ล.ต.-ตลท.’อุดช่องโหว่ ‘จำนำหุ้นนอกตลาด’

จากกรณีหุ้นบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG กำลังเป็นที่สนใจของนักลงทุนเนื่องจากเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งการทำธุรกรรมต้องสงสัย และกระแสข่าวลือเกิดขึ้น

นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการ และในฐานะโฆษกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า เมื่อมีประเด็นธุรกรรมต้องสงสัยหรือข้อสงสัยเกิดขึ้น ก.ล.ต จะต้องนำมาพิจารณาข้อเท็จจริง และจะมีการคุยกับผู้บริหารบริษัท เพื่อรับทราบข้อมูลข้อเท็จจริงต่างๆ ให้ชัดเจนก่อน เพื่อให้นักลงทุนได้รับทราบข้อมูลข้อเท็จจริงอย่างเท่าเทียมกันต่อไป

"กรณีที่มีปัญหานั้น ก.ล.ต. ต้องพิจารณาในประเด็นต่างๆ ว่า มีความเกี่ยวข้องในเชิงทุจริตฉ้อโกง หรือเป็นธุรกรรมปกติ หรือเกิดจากความไม่ระมัดระวังเพียงพอของผู้บริหารที่ทำให้เกิดความเสียหายหรือไม่อย่างไร  และเร่งรัดกระบวนการทางกฎหมายของก.ล.ต.ให้เร็วขึ้น เพื่อเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน”

ทั้งนี้ ในหลายกรณีที่มีปัญหา เราต้องเร่งรัดดำเนินการ เพราะยอมรับทุกครั้งที่มีเคสเกิดขึ้นย่อมกระทบกับความเชื่อมั่นของนักลงทุน ค่อนข้างมากในทุกครั้ง ซึ่งกระบวนการบังคับใช้กฎหมาย ของ ก.ล.ต. ก็เร่งพิจารณาทั้งขับเคลื่อนโดยใช้เทคโนโลยี และบอร์ด ก.ล.ต.เข้ามาดูเพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับมา

ที่ผ่านมา ก.ล.ต. ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) รวมถึงเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวน ทำให้การสืบสวนคดีกล่าวโทษจาก ก.ล.ต.เร็วมากขึ้น จะเห็นได้ว่า ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ก.ล.ต.กล่าวโทษได้รวม 379 คดี ปิดคดีไปแล้ว 267 คดี ขณะเดียวกันทุกคดีที่อยู่ในชั้นศาล ก.ล.ต.ชนะทุกคดี

นอกจากนี้ การนำหุ้นไปกู้ยืมนอกตลาด ยังไม่เกิดการครอบครอง และรายงานข้อมูลตามมาตรา 59 ของพ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ยังครอบคลุมไม่ถึงถือเป็น “ช่องโหว่” ซึ่ง ก.ล.ต.อยู่ระหว่างการศึกษา และวางกลไกที่ทำให้ผู้ถือหุ้นใหญ่ มีการเปิดเผยรายงานข้อมูลส่วนนี้ เพื่อสร้างความโปร่งใสให้กับนักลงทุนครบถ้วนมากขึ้น คาดหวังว่าอยากเห็นเป็นรูปธรรมภายในปีนี้ และคาดเริ่มใช้ในปีหน้า 

 “เนื่องจากกรณีที่นำหุ้นไปกู้ยืมเงินนอกตลาดเป็นสิทธิของผู้กู้ และผู้ให้กู้อยู่แล้ว แต่หากส่งผลความเสี่ยงต่อระบบ ก.ล.ต.และตลท. เห็นตรงกัน และต้องปิดโหว่ ทำให้นักลงทุนได้รับข้อมูลอย่างครบถ้วน” 

นายรองรักษ์ พนาปวุฒิกุล รองผู้จัดการ ในฐานะโฆษก ตลท. กล่าวว่า กรณี THG บริษัทได้มีการชี้แจงข้อมูลกลับมาครบถ้วนแล้ว ในส่วนกระแสข่าวลือต่างๆ เป็นหน้าที่ของTHG ต้องชี้แจงว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ในส่วนของตลาดหลักทรัพย์ฯ รอดูการแจ้งงบไตรมาส 3 ปี 2567 ของ THG มีการรายงานในงบการเงินฐานะการเงินเปลี่ยนแปลงอย่างไร และผู้สอบบัญชีให้ความคิดเห็นอย่างไรบ้าง

ส่วนกรณีที่ปรากฏในข่าว ทั้งเคสวอริกซ์ และข้อเสนอที่นายหน้าใช้การชักชวนทำ Shares Financing ในการใช้หลักทรัพย์เป็นหลักประกันการชำระหนี้กู้ยืม กรณีดังกล่าวพบเป็นการทำธุรกรรมจำนำหุ้นนอกระบบ บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด (TSD) ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้   

ดังนั้น อ

ยากจะเตือนผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ถึงข้อควรระวังที่ผู้กู้ ผู้ขอวงเงิน พึ่งพิจารณาก่อนเข้าทำธุรกรรมเพื่อไม่ให้หลงเป็นเหยื่อ โดยผู้กู้ต้องทำความเข้าใจข้อตกลงให้ครบถ้วนว่า ผู้ให้กู้เป็นใคร มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน มูลค่าของหลักทรัพย์ที่ใช้เป็นหลักประกันสามารถ เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา 

หากมีมูลค่าลดลง อาจส่งผลให้ผู้กู้มีหน้าที่บางประการ ในกรณีที่หลักทรัพย์ที่ผู้กู้นำไปวางเป็นหลักประกันหรือหลักทรัพย์ใน portfolio ของผู้กู้กระจุกตัวอยู่ในหลักทรัพย์ใดหลักทรัพย์หนึ่ง รวมถึงในกรณีของการมีการจ่ายสิทธิประโยชน์จากหลักทรัพย์ที่ใช้เป็นหลักประกัน เป็นต้น

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์