แบงก์ยักษ์สวิสถอนทุนจีนยกแผง! CIO ลั่นไม่หวั่นมาตรการกระตุ้น ยันไม่กลับเข้าลงทุน
"ไมเคิล สโตรเบค" CIO คนใหม่ของลอมบาร์ด โอเดียร์ สั่งขายหุ้นและพันธบัตรจีนทิ้งทั้งหมด หันซื้อสินทรัพย์สหรัฐและตลาดเกิดใหม่ ย้ำไม่สนใจกลับเข้าลงทุนแม้จีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ชี้รัฐบาลแทรกแซงตลาดทุนไม่ใช่สัญญาณดี
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (30 ก.ย.) ว่า หากย้อนกลับไปในช่วงแรกซึ่งตรงกับเดือนพ.ย. ที่ ไมเคิล สโตรเบค เข้าไปทำงานที่ ลอมบาร์ด โอเดียร์ ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุน (CIO) หนึ่งในการตัดสินใจครั้งสำคัญแรกของเขาคือการขายหุ้นและพันธบัตรจีนทั้งหมดในพอร์ตการลงทุนที่บริหารจัดการให้กับลูกค้าส่วนบุคคล
"ตอนนั้นผมขายสินทรัพย์จีนออกไปทั้งหมด"
สโตรเบคผู้ดูแลสินทรัพย์ของธนาคารเอกชนสวิสกว่า 2.49 แสนล้านดอลลาร์ กล่าว โดยย้ายไปลงทุนในหุ้นและพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ รวมทั้ง เงินดอลลาร์ แทน และเขากล่าวในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันศุกร์ว่าการตัดสินใจนี้ "ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง"
แม้หลังจากที่ทางการจีนออก มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งใหญ่เมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งส่งผลให้ดัชนีหุ้นของประเทศอย่าง CSI 300 ปรับตัวขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2008 ทว่าสโตรเบคก็ยังไม่เสียใจกับการตัดสินใจครั้งนั้น
สโตรเบคกล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้สัดส่วนการถือครองสินทรัพย์จีนของธนาคารอยู่ที่ประมาณ 6% ของสัดส่วนการลงทุนทั้งหมด ซึ่งเป็นตัวกำหนดว่าเงินทุนของลูกค้าจะถูกแบ่งระหว่างหุ้น พันธบัตร และสินทรัพย์อื่นๆ อย่างไร โดยปัจจุบันสัดส่วนดังกล่าวลดลงเหลือศูนย์แล้ว
ทั้งนี้ ลอมบาร์ด โอเดียร์ มี สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ทั้งหมด 2.09 แสนล้านฟรังก์สวิส ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของลูกค้าส่วนบุคคล ในขณะที่หน่วยบริหารสินทรัพย์อยู่ที่ประมาณ 63 พันล้านฟรังก์สวิส
บทวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก เผยว่า ความเห็นดังกล่าวสะท้อนถึงความแตกต่างในมุมมองของนักลงทุนแต่ละคนที่ว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จีนประกาศใช้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วจะเป็นจุดเริ่มต้นของ การฟื้นตัวในวงกว้าง หรือไม่
ด้านเดวิด เทปเปอร์ นักลงทุนพันล้านกล่าวว่าเขาอยู่ในช่วงซื้อ สินทรัพย์ที่เชื่อมโยงกับจีน "ทุกอย่าง" หลังจากที่มาตรการของรัฐบาลกลางปักกิ่งดีเกินความคาดหมาย ขณะที่สตีเฟน เจน จาก Eurizon SLJ Capital กล่าวในรายงานถึงลูกค้าเมื่อวันศุกร์ว่าการ มีความเป็นไปได้สูงที่หุ้นจีนจะ "ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง"
แต่สโตรเบค ผู้บริหารชาวเดนมาร์กที่ย้ายจากเครดิต สวิสเพื่อมาร่วมงานกับลอมบาร์ด โอเดียร์เมื่อปีที่แล้ว ไม่เชื่อเช่นนั้น
"ผมไม่คิดว่ามาตรการกระตุ้นจะส่งผลกระทบที่ยั่งยืนต่อตลาดหุ้นหรือเศรษฐกิจ"
เขากล่าวถึงมาตรการทั้งหมดว่า "เป็นเพียงมาตรการระยะสั้นเพื่อกระตุ้นความเชื่อมั่นบางส่วน และพูดตามตรง เมื่อรัฐบาลเข้ามามีส่วนร่วมในตลาดทุนแบบนี้ ผมมักจะมองว่าไม่ใช่สัญญาณที่ดี"
ทั้งนี้ แม้สโตรเบคจะได้รับคำถามถึงการใช้ประโยชน์จากหุ้นจีนที่ปรับตัวขึ้นในช่วงนี้ทว่าทีมงานด้านการลงทุนของเขาก็แนะนำให้ลูกค้ามีส่วนร่วม “แบบห่างๆ” ผ่านหุ้นฮ่องกงหรือหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกของจีนเท่านั้น
นอกจากนี้ หลังจากที่ทำกำไรจากหุ้นสหรัฐในปีนี้ ปัจจุบันเขาพิจารณาลดการลงทุนในหุ้นสหรัฐลดลงเนื่องจากมูลค่าหุ้นที่สูงขึ้นมาก "การเคลื่อนไหวต่อไปคือเริ่มลดหุ้นสหรัฐลงและย้ายไปลงทุนนอกมากขึ้น รวมถึงตลาดเกิดใหม่" เขากล่าว พร้อมเสริมว่า "แต่ไม่รวมจีน"
อ้างอิง: Bloomberg