หุ้น THG ดิ่งต่อ 10.05% กลุ่ม รพ.รามคำแหง ยังกังวล
หุ้น THG ดิ่งต่อ 10.05% หรือราคาลดลง 2.00 บาท หรือระดับราคาอยู่ที่ 17.90 บาท "นักวิเคราะห์" เผย กลุ่ม รพ.รามคำแหง ยังกังวล เสี่ยงตั้งสำรองลูกหนี้ 110 ล้านบาท
ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยภาคเช้า ณ วันที่ 1 ต.ค.2567 เวลา 10.00 น.หุ้น THG หรือ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ปรับตัวลงต่อ 10.05% หรือราคาลดลง 2.00 บาท หรือระดับราคาอยู่ที่ 17.90 บาท
มินทรา รัตยาภาส นักวิเคราะห์อาวุโส บล.กรุงศรี เปิดเผยกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ราคาปรับลดลงมายังคงเป็นประเด็นที่บริษัทเคยแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ และขณะนี้จึงยังคงเป็นเซนติเมนลบต่อตัวบริษัทในเชิงของ Corporate Governance แต่ทว่าในเชิงพื้นฐานยังคงไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ ยังคงมีประเด็นที่ยังคงกังวลความเสี่ยงที่บริษัทมีการแจ้งในเรื่องของลูกหนี้ที่มีการให้กู้ยืมระหว่างบริษัทในเครือ ซึ่งหากนำตัวเลขที่บริษัทแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ มูลค่าที่ประเมินว่าจะเป็นความเสี่ยง และถ้ามีการตั้งสำรองลูกหนี้น่าจะอยู่ประมาณราว 110 ล้านบาท ดังนั้นผลกระทบได้ประเมินราคาไว้ที่ 22 บาท
โดยในไตรมาส 3/67 คาดว่าผลการดำเนินงานของ THG มีโอกาสขาดทุนหากต้องมีการจ่ายสำรองหนี้เป็นมูลค่าตามที่ประเมินไว้ ทั้งนี้หากไม่รวมการตั้งสำรอง คาดว่าธุรกิจปกติจะมีกำไรลดลง y-y ไตรมาส 3/66 กำไร 308 ล้านบาท เนื่องจากคาดว่าธุรกิจ รพ. มีผลกระทบต้นทุนเพิ่มขึ้นจากการขยายศักยภสพให้บริการของ รพ.ธนบุรี 1 เพิ่มห้องตรวจ OPD 80 ห้อง รพ.ธนบุรี ทวีวัฒนา เพิ่มห้องตรวจ OPD 45ห้อง IPD 49 เตียง รพ.ราษฎร์ ยินดี เพิ่มห้องตรวจ OPD 5ห้อง ทั้งนี้เทียบ q-q คาดกำไรเติบโต ไตรมาส 2/67 มีกำไร 43 ล้านบาท มีปัจจัยบวกฤดูกาลของการใช้บริการเพิ่มขึ้น ประกอบกับคาดผลกระทบของค่าใช้จ่ายปรับโครงสร้างลดลง และ รพ.ในพม่าไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษ ส่วนกำไรสุทธิปี 2567 ลงจากเดิม -69% เป็น 122 ล้านบาท เดิม 393 ล้านบาท
"ณ ปัจจุุบันเริ่มเซนติเมนลบอื่น ๆ เข้ามาในแง่ของความกังวล ราคาคงเหวี่ยงในระยะสั้น เพราะความเชื่อมั่นต่อบริษัท ซึ่งหากนักลงทุนยังไม่มีหุ้น THG ยังไม่ควรรีบ เพราะราคายังคงเหวี่ยงผันผวนอยู่ ซึ่งราคาปรับตัวลงมาค่อนข้างแรงตั้งแต่วานนี้ หลังจากที่กลุ่มรามคำแหงผู้ถือหุ้นใหญ่อาจจะค่อนข้าง concern แต่ในรายละเอียดยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงในทางโครงสร้างการถือหุ้น"
สำหรับ THG แจ้งข่าวตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุ คณะกรรมการตรวจพบการทำรายการของบริษัทย่อย 2 แห่ง ได้แก่ บ.โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง หรือ THB และบ.ที เอช เฮลท์ หรือ THH ซึ่ง THG ถือหุ้น 83% และ 51.2% ตามลำดับ มีขั้นตอนการอนุมัติไม่ถูกต้องในการทำรายการดังนี้
1.) ให้กู้ยืมเงินแก่ บ.ราชธานีพัฒนาการ ซึ่งมีครอบครัววนาสินถือหุ้นใหญ่ ในเดือน ธ.ค.65-ปี 66 มูลค่ารวม 145 ล้านบาท
2.) ให้กู้ยืมเงินแก่ บ.ไทย เมดิเคิล กรุ๊ป ซึ่ง บ.ราชธานีพัฒนาการถือหุ้นใหญ่ ในปี 66 มูลค่า 10 ล้านบาท และ
3.) THH สั่งซื้อสินค้าจากบริษัทในสิงคโปร์ แต่ไม่ได้มีการรับมอบสินค้าจริง ในปี 66 มูลค่า 55 ล้านบาท
โดยปัจจุบันยอดหนี้คงค้างมูลค่ารวม 105 ล้านบาท ไม่รวมดอกเบี้ย มองว่าประเด็นที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาการควบคุมภายใน ซึ่งส่งผลลบต่อภาพลักษณ์บริษัท ในเบื้องต้นประเมิน THG อาจต้องตั้งสำรองค่าใช้จ่ายหนี้สูญราว 11 ล้านบาท ในไตรมาส 3/67 โดยสมมติฐานอัตราดอกเบี้ย 7% ตั้งแต่ม.ค.66-ก.ย.67