SCBX ลดขาดทุน"โรบินฮู้ด"ทันที 2พันล้าน โบรกเกอร์มองปี 68 เพิ่มกำไรอีก 5%
โบรกเกอร์คาด SCBX ปิดดีลขาย "โรบินฮู้ด" 2,000 ล้านบาท ลดขาดทุนปี 67 ทันทีจากเงินลงทุนปี 67 ที่ 3,000 ล้านบาท และยังเพิ่มกำไรปี 68 อีก 5% หรือประมาณ 2,000 ล้านบาท เหตุไร้ตั้งด้อยค่าเงินลงทุน เคาะราคาเป้าหมาย 122.00 บาท
จากกรณี ที่ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB รายงานว่า คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้บริษัทขายหุ้นทั้งหมดในบริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด (PPV) ผู้ให้บริการ Robinhood ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ที่บริษัทถือหุ้นทางตรงในสัดส่วน 100% บัดนี้บริษัทได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับกลุ่มผู้ลงทุน ซึ่งนำโดยบริษัทยิบอินซอย จำกัด เพื่อขายหุ้นทั้งหมดที่บริษัทถืออยู่ใน PPV เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อ 30 ก.ย.67มูลค่าการซื้อขายรวมสูงสุด 2 พันล้านบาท มูลค่าเบื้องต้นชำระทันที 400 ล้านบาท และส่วนเพิ่มตามผลประกอบการสูงสุดไม่เกิน 1.6 พันล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด วิเคราะห์ข้อมูลเดิมจากการสอบถามฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ของ SCB ทราบว่าเงินลงทุนเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2563 ราว 8 พันกว่าล้านบาท โดยที่ผ่านมา 4 ปี ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ ขาดทุนมาตลอด ปี 63 ขาดทุน 87.8 ล้านบาท ปี 64 ขาดทุน 1,335.4 ล้านบาท ปี 65 ขาดทุน 1,986.8 ล้านบาท ปี 66 ขาดทุน 2,155.7 ล้านบาท รวม 4 ปีที่ผ่านมา ขาดทุนสะสมกว่า 5,565.8 ล้านบาท ซึ่งรับรู้ขาดทุนเข้าไปทุกปี ทำให้คาดว่าจะเหลือเงินลงทุนราว 2.5-3 พันล้านบาท ซึ่งอาจจะต้องบันทึกด้อยค่าในปีนี้
หากปิดกิจการโดยไม่ทำอะไรเลยความเห็นมองเป็นบวกมากขึ้นจากการขาย Robinhood ออกไปได้ แทนที่จะปิดกิจการไป และบันทึกขาดทุนด้อยค่าเงินลงทุนทั้งหมด ทั้งนี้เดิมมองว่า Robinhood ซึ่งมีขาดทุนปีละราว 2 พันล้านบาท
ขณะที่เงินลงทุนใน Robinhood ของ SCB ต้นปี 67 เหลืออยู่ราว 2.5-3 พันล้านบาท คาดการณ์ขาดทุนครึ่งปีแรกปี 67 ของ Robinhood ที่ 1 พันล้านบาท ซึ่งรับรู้ไปแล้วในผลประกอบการครึ่งปีแรกปี 67 ของ SCB ทำให้คาดเหลือเงินลงทุนดังกล่าวราว 1.5-2 พันล้านบาท ซึ่งเดิม SCB เลือกที่จะปิดกิจการ Robinhood และบันทึกขาดทุนจากการด้อยค่าเงินลงทุนดังกล่าวบวกกับการบันทึกค่าใช้จ่าย one off ทั้งหมดลงใน 3Q67
คาดว่าจะ off set กับเงินลงทุนที่เหลือ หรืออาจจะลบอีกเล็กน้อย แต่จากการขายกิจการ Robinhood ได้ภายใน 3Q67 ซึ่งได้รับเงินเบื้องต้นทันที 400 ล้านบาท ถือว่าเป็นผลดีต่อ SCB มากขึ้น ทำให้สุดท้ายแล้ว SCB จะไม่ต้องตั้งด้อยค่าเพิ่มเติมอีกแล้ว
นอกจากนี้หาก SCBได้รับเงินส่วนเพิ่มตามผลประกอบการที่มากกว่า 400 ล้านบาท ยิ่งส่งผลบวกต่อผลกำไรของ SCB ในปีนี้ ขณะที่ในปี 68 SCB จะไม่ต้องบันทึกรับรู้ขาดทุนจาก Robinhood ปีละ 2 พันล้านบาทอีกต่อไป ซึ่งจะทำให้ SCB มีผลประกอบการที่ดีขึ้นถึง 2 พันล้านบาท หรือราวเกือบ 5%ของกำไรทั้งปีของ SCBได้เลย
ดังนั้น แนะนำ ซื้อลงทุน โดยมีราคาเป้าหมายปี 68 ที่ 122 บาท โดย SCB ยังถือเป็นหุ้นธนาคารที่มีปันผลสูงสม่ำเสมอราว 9-10% ต่อปี
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์