MAGURO ทุ่ม 70 ล้านเพิ่มแบรนด์ใหม่ ขยาย13 สาขาดันรายได้ทั้งปีโต 30 %
MAGURO ปักธงรายได้ปี 67 โต 30 % พร้อมทุ่ม 70 ล้านบาทขยายสาขา The Flavorhood รวมร้าน MAGURO, HITORI SHABU และร้านอาหารแบรนด์ใหม่รูปแบบ All day dining หลังปรับแผนเพิ่มสาขาทุกแบรนด์ในพอร์ต 13 แห่งเดิม 11 แห่ง
นายเอกฤกษ์ แสงเสรีดำรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAGURO กล่าวว่า ปีนี้ได้เพิ่มเป้าหมายการขยายสาขาจาก 11 สาขาเป็น 13 สาขา ซึ่งเปิดไปแล้ว 7 สาขา เหลืออีก 6 สาขาที่จะทยอยเปิดไตรมาส 4 ปีนี้ โดยมีแบรนด์ใหม่ The Flavorhood จะใช้เงินลงทุนเฉพาะ 70 ล้านบาท รวมร้าน MAGURO, HITORI SHABU และร้านอาหารแบรนด์ใหม่รูปแบบ All day dining คาดว่าแต่ละสาขาใหม่ที่เพิ่มจะเริ่มมีกำไรต้องใช้เวลา 1ปีกว่า แต่รายได้เริ่มเข้ามาหนุนทันทีทำให้ทั้งปี 2567 เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้เติบโต 30 % จากปีก่อนมีรายได้ 1,000 ล้านบาท
สาขาที่เปิดเพิ่มจะอยู่ในโครงการ The Flavorhood เพื่อเป็น Food Destination หรือ ศูนย์รวมความอร่อยแห่งใหม่ ในเนเบอร์ฮูด (โดยการนำ Flavor หรือรสชาติความอร่อย มาคอลแลบกับ Neighborhood หรือย่านชุมชน) The Flavorhood ประดิษฐ์มนูธรรม เป็นโครงการแรกของเรา ซึ่งมีจุดเด่นคือการนำ 3 ร้านอาหารในเครือมาไว้ในที่เดียวกัน คือ ร้าน MAGURO, ร้าน HITORI SHABU ซึ่งเปิดให้บริการแล้วในวันนี้ และร้านอาหารแบรนด์ใหม่รูปแบบ All day dining (ที่คาดว่าจะสามารถเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ภายในปลายไตรมาสที่ 4 ของปีนี้) บนพื้นที่กว่า 2 ไร่ของโครงการ ยังได้รับการตกแต่งแบบผสมผสานระหว่างความร่วมสมัยแต่ยังคงกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นอยู่ เช่นทางเดินเข้าที่สะท้อนถึงการเข้าหมู่บ้านญี่ปุ่น
รวมถึงสวนในโครงการที่มีทั้งรูปแบบ Japanese Garden และ Modern Tropical Garden นอกจากความอร่อยที่เราจะมอบให้ลููกค้าแล้ว เรายังอยากให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลาย ร่มรื่น อบอุ่น และดื่มด่ำไปกับบรรยากาศโดยรอบของโครงการ นอกจากนี้ยังมีความตั้งใจให้โครงการนี้เป็นการต่อยอดแนวทาง ESG โดยมีแผนการติดตั้งจุดชาร์จ EV Charger และ Solar Roof ภายในโครงการ รวมถึงจุดรีไซเคิลขยะพลาสติก และการแยกขยะอย่างเป็นระบบอีกด้วย และบริษัทฯ มีแผนที่จะพัฒนา Flavorhood แห่งที่ 2 ในย่านชุมชนต่างๆที่มีศักยภาพสูงต่อไป”
ด้าน นายจักรกฤติ สายสมบูรณ์ กรรมการบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAGURO กล่าวว่า “เราเลือกย่านประดิษฐ์มนูธรรม เป็นที่แรกในการเปิดโครงการ The Flavorhood เพราะเราเชื่อมั่นในศักยภาพของกลุ่มลูกค้าในย่านนี้ว่าเป็นกลุ่มลูกค้าของแบรนด์เราไม่ว่าจะเป็น MAGURO หรือ HITORI SHABU ซึ่งมาจากการสำรวจข้อมูลจากสาขาใกล้เคียง
โดย The Flavorhood ไม่ได้เป็นเพียงแค่ Food Destination แต่เราต้องการสร้างพื้นที่ที่ ทุกคนสามารถมาพบปะ พูดคุย และเพลิดเพลิน กับรสชาติอาหาร ที่หลากหลาย ทั้ง MAGURO ร้านอาหารญี่ปุ่นและซูชิสไตล์ระดับพรีเมียม ที่เราคัดสรรวัตถุดิบสุดพรีเมียมมา สร้างสรรความอร่อยทุกเมนู และพิเศษสุดเฉพาะสาขานี้คือได้เพิ่มเมนูอาหารทะเลสด และเตาย่างอาหารไว้คอยบริการ
ในขณะที่ ร้าน HITORI SHABU ชาบูและสุกียากี้ หม้อเดี่ยวสไตล์คันไซ สำหรับผู้ที่หลงรักในรสชาติของชาบูและสุกียากี้ แบบต้นตำรับญี่ปุ่น ได้ถูกรังสรรค์ให้เป็นร้าน Flagship ด้วยการออกแบบที่สวยงาม และเป็นร้านฮิโตริ ที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน เพื่อรองรับความนิยมของลูกค้าในเนเบอร์ฮูดนี้เราหวังว่าสถานที่นี้จะกลายเป็นจุดหมายปลายทางความอร่อยที่ทุกคนสามารถ แบ่งปันความสุขและความทรงจำดีๆ ผ่านอาหารคุณภาพระดับพรีเมียม ที่เราตั้งใจคัดสรรมาเพื่อทุกคน ตามปรัชญา ‘Give More Culture’ หรือ ‘การให้มากกว่าที่ขอ’ ที่บริษัทฯ ใช้ในการบริหารธุรกิจมาโดยตลอด
และพิเศษสุดสำหรับ โครงการ The Flavorhood ทาง Maguro ได้ร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจใหม่ คือ Guss Damn Good แบรนด์ไอศกรีมระดับพรีเมียมที่มีคอนเซปต์ "Story to Flavor" ที่จะมาช่วยรังสรรค์ไอศกรีมพิเศษ รสมันหวาน ญี่ปุ่นครีมบูเร่ เพื่อเป็น Signature Dessert ให้เฉพาะที่ร้าน MAGURO เท่านั้น ซึ่งสาขา The Flavorhood นี้ จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน และจนกว่าสินค้าจะหมดเท่านั้น โดยในสาขาอื่นๆ ได้แก่ สาขา Chic ราชพฤกษ์ , สาขา Health Land แจ้งวัฒนะ , สาขา SB พระราม 2 , สาขา เอสพลานาด รัชดา , สาขา Central World , สาขา The Nine พระราม 9 , สาขา Promenade , สาขา Nirvana , สาขา Marche ทองหล่อ จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน และจนกว่าสินค้าจะหมดเช่นกัน”
นอกจากนี้ นางสาวระริน ธรรมวัฒนะ Co-founder บริษัท กัสส์ แดมน์ กู๊ด จำกัด ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “GUSS DAMN GOOD เป็นแบรนด์ไอศกรีมระดับพรีเมียม ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างสูงจากลูกค้าจำนวนมากมากว่า 9 ปี เรามีความยินดีมากที่ได้มาร่วมคอลแลบกับ MAGURO ในครั้งนี้ เพื่อสร้างสรรค์ ประสบการณ์สุดพิเศษให้กับลูกค้าของทั้ง 2 บริษัท โดยเราได้สร้างสรรค์ไอศกรีมรสชาติพิเศษ ที่ออกแบบมาเพื่อแบรนด์ MAGURO เพียงเจ้าเดียว เราหวังว่ารสชาติมันหวานญี่ปุ่นครีมบูเร่ จะอร่อยถูกใจ และเพิ่มความประทับใจให้กับลูกค้าทุกท่าน ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายร่วมกันของเรา”