อุตสาฯ อิเล็กทรอนิกส์ดาวเด่นปี 68 "กลุ่มไฟฟ้ากำลัง" ดันส่งออกโต

อุตสาฯ อิเล็กทรอนิกส์ดาวเด่นปี 68   "กลุ่มไฟฟ้ากำลัง" ดันส่งออกโต

SCB EIC อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ตามวัฏจักรขาขึ้นของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มเปราะบาง

         ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) ระบุภาพรวมอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในตลาดโลกที่ขยายตัวได้ดี แต่ยังต้องติดตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มเปราะบางและเศรษฐกิจจีนที่ชะลอลง

          ในปี 2567 คาดว่ามูลค่าการส่งออกของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในภาพรวมจะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นจากปี 2566 โดยคาดว่าจะขยายตัว 2.4%YOY โดยได้รับปัจจัยหนุนจากวัฏจักรขาขึ้นของสินค้าคอมพิวเตอร์และฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์

         มูลค่าการส่งออกของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องที่ 2.8%YOY ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และกลุ่มไฟฟ้ากำลัง (Power electronics) ในตลาดโลกที่ขยายตัวต่อเนื่อง และเป็นไปตามวัฏจักรขาขึ้นของคอมพิวเตอร์กับฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ที่ฟื้นตัว ขณะที่ความต้องการในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าชะลอลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มเปราะบางและเศรษฐกิจจีนที่ชะลอลง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคบางส่วน

      อุตสาฯ อิเล็กทรอนิกส์ดาวเด่นปี 68   \"กลุ่มไฟฟ้ากำลัง\" ดันส่งออกโต

        สำหรับกลุ่มที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดี คือกลุ่ม Power electronics ส่วนกลุ่ม Consumer electronics ยังคงขยายตัวตามวัฏจักรขาขึ้น ขณะที่กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้ามีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างช้า ๆ จากเศรษฐกิจโลกที่ยังคงเปราะบาง

  • อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ : การส่งออกในปี 2568 มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น โดยคาดว่าจะขยายตัวอยู่ที่ 3.0%YOY โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากความต้องการในสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกที่กลับมาฟื้นตัว โดยเฉพาะในกลุ่มชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และเทคโนโลยี AI
  • อุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ : การส่งออกในปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวที่ 2.4%YOY สอดคล้องกับทิศทางตลาดฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์โลกที่คาดว่าจะฟื้นตัวต่อเนื่องจากปีนี้
  • อุตสาหกรรม Consumer electronics : การส่งออกในปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวอยู่ที่ 2.7%YOY สอดคล้องกับวัฏจักรขาขึ้นและความต้องการซื้อคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบที่ขยายตัว แต่ยังคงต้องจับตาความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า
  • อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า : การส่งออกในปี 2568 มีแนวโน้มกลับมาฟื้นตัวอย่างช้า ๆ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง โดยคาดว่าภาพรวมการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าจะขยายตัวอยู่ที่ 1.2%YOY โดยมีปัจจัยหนุนสำคัญจากการขยายตัวของการส่งออกสินค้าในกลุ่มเครื่องปรับอากาศและเครื่องซักผ้าไปยังสหรัฐฯ ที่ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง
  • อุตสาหกรรมไฟฟ้ากำลัง หรือ Power electronics : การส่งออกในปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องที่ราว 4.3%YOY โดยคาดว่าความต้องการสินค้าในกลุ่มนี้จะขยายตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ เช่น หม้อแปลงไฟฟ้า แผงสวิตช์ และสายไฟฟ้า/สายเคเบิล เป็นต้น

     

         อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ยังมีประเด็นที่ต้องจับตาการเปลี่ยนแปลงของ Global value chain ครั้งใหม่ จากความเสี่ยงทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลให้เกิดกระแสการย้ายฐานการผลิต และแนวโน้มการลงทุนในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของไทย ตลอดจนเทรนด์รักษ์โลก

  • การเปลี่ยนแปลงของ Global value chain ครั้งใหม่ จากประเด็นความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลให้เกิดการแบ่งขั้วเศรษฐกิจและนำมาสู่กระแสการย้ายฐานการผลิต รวมไปถึงแรงกดดันจาก Mega trend ต่าง ๆ เช่น เทรนด์รักษ์โลก การเติบโตของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และกลุ่ม Data center แนวโน้ม
    ความต้องการยานยนต์ไฟฟ้า ที่จะเป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของ Global value chain
    ครั้งใหม่ของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์โลก
  • แนวโน้มการลงทุนในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของไทย ที่ส่งผลให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมจำเป็นต้องปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับการเติบโตของสินค้าไฮเทคมากขึ้น
  • เทรนด์รักษ์โลกกับการบริหารธุรกิจให้เติบโตแบบยั่งยืน ผู้บริโภคในปัจจุบันให้ความสำคัญและใส่ใจกับปัญหาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ส่งผลให้ภาคธุรกิจจำเป็นต้องมีการปรับตัวและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงกระบวนการผลิต การเลือกใช้วัสดุรีไซเคิล รวมไปถึงการจัดทำแผนการพัฒนาองค์กรแบบยั่งยืน

    อุตสาฯ อิเล็กทรอนิกส์ดาวเด่นปี 68   \"กลุ่มไฟฟ้ากำลัง\" ดันส่งออกโต

        SCB EIC มองว่า ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ต้องมีการปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับสถานการณ์ ดังนี้

  • การพัฒนาไปสู่อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์สีเขียวมากขึ้น ตั้งแต่การจัดหาวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
    ลดการใช้สารเคมีอันตราย ไปจนถึงการบริหารจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างเหมาะสม
  • การส่งเสริมการพัฒนาทักษะแรงงานที่มีทักษะสูง มีการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรในสถาบันการศึกษาที่สอดรับกับความต้องการของตลาดแรงงานมากขึ้น เช่น วิศวกรรมเซมิคอนดักเตอร์ นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ นักวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เป็นต้น
  • การส่งเสริมการลงทุนด้านการวิจัยและการพัฒนาที่มุ่งเน้นการสร้างห่วงโซ่อุปทานการผลิตระดับต้นน้ำมากขึ้น ภาครัฐและเอกชนควรร่วมมือกันส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา เพื่อให้เกิดการพัฒนาไปสู่การผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ระดับต้นน้ำที่มีมูลค่าเพิ่ม (High value-added) มากขึ้น