ก.ล.ต. เร่งรัดจ่อเอาผิด คดีปั่นหุ้น - บริหารงานผิดพลาด โค้งท้ายปี เพียบ!
ก.ล.ต. โค้งท้ายปีนี้ เดินหน้าเร่งรัดตามกระบวนการลงโทษทางแพ่ง จ่อเอาผิดคดีปั่นหุ้น - บริหารงานผิดพลาด ไม่ต่ำกว่า 2 ราย คาดสัปดาห์หน้า ปิดเคส 1 ราย
นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการ และโฆษก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ก.ล.ต. กำลังเร่งรัดการชี้ความผิดตามมาตรการลงโทษทางแพ่ง กรณีการกระทำไม่เป็นธรรมในการซื้อขายหลักทรัพย์ และกรณีกรรมการหรือผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน ไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง และความซื่อสัตย์สุจริต
คาดว่า ในช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีนี้ จะสามารถดำเนินคดีลงโทษทางแพ่ง เพิ่มเติมอีก ไม่ต่ำกว่า 2 ราย ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะดำเนินคดีดังกล่าว 1 ราย สำหรับในเดือน ต.ค.2567 ดำเนินการบังคับใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งแล้ว 14 ราย ซึ่งทั้ง 13 รายได้ มายินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษ ทั้งเงินค่าปรับทางแพ่ง และเงินชดใช้คืนผลประโยชน์ที่ได้รับจากการกระทำผิด เป็นรายได้แผ่นดินที่นำส่งกระทรวงการคลังแล้ว
"ปีนี้มีการกระทำผิดหลายราย ก.ล.ต.เร่งรัดดำเนินการตรวจสอบการกระทำความผิด และกล่าวโทษตามกระบวนบังคับใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งอย่างเต็มที่ในช่วง 2 เดือนที่เหลือปีนี้ยังมีอยู่อีกหลายรายที่อยู่ในกระบวนการดังกล่าว ”
ส่วนการกระทำผิดตามมาตรการลงโทษทางอาญานั้น กรณีใหญ่อย่าง บมจ.สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น หรือ STARK และ บมจ. มอร์ รีเทิร์น หรือ MORE กระบวนการตามกฎหมายบทบาทอยู่ที่พนักงานสอบสวน ขณะที่ก.ล.ต. ติดตามความคืบหน้าจากพนักงานสอบสวน หากมีการติดตามประสานข้อมูล yเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ก.ล.ต. พร้อมดำเนินการทันที ทั้งกรณี หุ้น STARK หุ้น MORE และ บมจ.ณุศาศิริ หรือ NUSA ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยังทำหน้าที่ดำเนินการตามกระบวนทางกฎหมายอย่างจริงจัง
“ต้องยอมรับว่า มาตรการลงโทษทางอาญามีความยาก จากอำนาจเบ็ดเสร็จอยู่ที่ พนักงานสอบสวน หลัง ก.ล.ต. ดำเนินการกล่าวโทษไปแล้ว แต่ทาง ก.ล.ต. ทำหน้าที่ติดตามความคืบหน้า และประสานให้ข้อมูลเพิ่มเติมในการตรวจสอบเร่งรัดลงโทษผู้กระทำผิดให้ได้โดยเร็ว”
นอกจากนี้ ความคืบหน้าหลังจากเกิดกรณี บมจ. วอริกซ์สปอร์ต หรือ WARRIX เกี่ยวกับความเสียหายการนำหุ้นไปจำนำนอกตลาด (นอกระบบ) ล่าสุด ก.ล.ต.กำลังดำเนินการวางกลไกที่ทำให้ผู้ถือหุ้นใหญ่ มีการเปิดเผยข้อมูลรายงานส่วนนี้ เพื่อความโปร่งใสให้กับนักลงทุนอย่างครบถ้วนมากขึ้น คาดหวังว่าจะเห็นเป็นรูปธรรมภายในปีนี้ และคาดว่าจะเริ่มใช้ปีหน้า
“กรณีที่นำหุ้นไปกู้ยืมเงินนอกตลาดเป็นสิทธิของผู้กู้และผู้ให้กู้อยู่แล้ว แต่หากส่งผลกระทบต่อระบบก.ล.ต.และตลท.เห็นตรงการ และต้องปิดโหว่ ทำให้นักลงทุนได้ข้อมูลอย่างครบถ้วน”
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์