DELTA ยืนอันดับ 1 พลิกนำดัชนีหุ้นไทยรอบ 50 ปี
หุ้นมหัศจรรย์ที่หาได้เฉพาะ DELTA หรือ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) พลิกขึ้นมาเป็นหุ้นรั้งอันดับ 1 ของตลาดหุ้นไทย
ด้วยแรงหนุนจากตัวธุรกิจที่เข้าสู่เทรนด์ใหญ่ของโลก “ดิจิทัล” และเกณฑ์ที่เปิดทางให้เข้าสู่ทำเนียบหุ้น SET 50 แบบไม่มีสะดุดจึงทำให้ได้รับตำแหน่งทั้ง “ดัชนี DELTA” หรือ “เดอะแบกหุ้นไทย “ ยืน 1 ในรอบ 50 ปีตั้งแต่ก่อตั้งตลาดหลักทรัพย์ฯก็ว่าได้
เจาะเฉพาะราคาหุ้นที่สร้างปรากฎการณ์มาตลอดช่วง 5 ปี (2562-2567) ถือว่าไร้คู่แข่งไปแล้วเพราะเป็นหุ้นที่ใครถืออดทนและทนถือ สามารถพลิกพอร์ตลงทุนหุ้นทันทีหลัง ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นช่วง 5 ปี 3,000 % หรือหุ้น 30 เด้งตามที่นักลงทุนอยากจะหาให้เจอเพื่อประดับพอร์ต
ปัจจุบันราคาหุ้นอยู่ที่ 157.00 บาท ถือว่าเป็นราคานิวไฮต์หลังประกาศแตกพาร์ปี 2566 จากเดิมหน่วยละ 100 หุ้น เป็น 50 หุ้น เนื่องจากหลักทรัพย์มีราคาปิดตั้งแต่ 500.00 บาทขึ้นไป เป็นระยะเวลา 6 เดือนติดต่อกัน หากไม่มีการแตกพาร์ด้วยราคาดังกล่าวอยู่ที่ 1,570 บาท !!
ตามมาด้วยมูลค่ามาร์เก็ตแคปที่พาทะยานขึ้นมาที่ 1.9 ล้านล้านบาท รั้งหุ้นอันดับ 1 ในตลาดหุ้นไทยและยังทิ้งห่างอันดับ 2 ยักษ์ใหญ่พลังงานกลุ่ม PTT ที่ 9.56 แสนล้านบาท และอันดับ 2 AOT ที่ 8.8 แสนล้านบาท มากกว่า1 เท่าตัว
ราคาหุ้นที่เพิ่มสูงขึ้นมาพร้อมกับ P/E ที่สุดแพงระยับ ถึง 90 เท่า แต่ถึงจะแพงอย่างไรยังมี "แรงซื้อมากกว่าแรงขาย" ไม่ว่าจะเป็นเพราะฟลีโฟลตในตลาดหุ้นที่มีจำนวนจำกัด 23 % แม้ว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ยอมปล่อยหุ้นออกมา 89 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.72% ราคาหุ้นละ 94.75 บาท มูลค่ารวม 8,432 ล้านบาท แต่ไม่มีผลเพราะปริมาณซื้อกลับมากกว่าปริมาณขาย
กองทุน – สถาบันย่อมต้องคว้าหุ้น DELTA เข้าพอร์ตอย่างเลี่ยงเลี่ยงไม่ได้ หากต้องการให้ performance กองทุนชนะดัชนีหุ้นไทยยิ่งผ่านเกณฑ์พิจาณ SET50 –SET 100 รวมทั้ง ESG ยิ่ง “จำเป็น” ต้องมี
นอกจากโครงสร้างหุ้นแล้วปัจจัยที่เอื้อให้กับ DELTA ที่เป็นภาพใหญ่และมีอิทธิผลไม่น้อยการเป็นธุรกิจชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ "กลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์" ที่มีบริษัทแม่ไต้หวันได้เข้าสู่ธุรกิจดิจิทัลปี 2563 แตกไลน์ไปยังธุรกิจพลังงานทดแทน อย่าง รถยนต์อีวีด้วยการผลิตที่ชาร์ทแบตเตอรี่ และกระแสธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ และคลาวด์เซ็นเตอร์ที่มาแรงเป็นเทรนด์โลกในอนาคตทำให้ DELTA แทบจะเป็นบริษัทเดียวในตลาดหุ้นไทยที่เข้าใกล้กับคำว่าหุ้นเทคฯ มากที่สุด
ตามการเติบโตวัดผ่านตัวเลขผลประกอบการกำไรสุทธิขยายตัวเพิ่มขึ้นแตะหมื่นล้านปี 2563 ซึ่งปี 2567-2568 บริษัทยังรักษาเติบโตเป็นเลข 2 หลัก ทั้งธุรกิจ EV และ ดาต้าเซ็นเตอร์ ผ่านงบลงทุนในไทย 1 หมื่นล้านบาท เป็นไฮไลต์ที่พาราคาหุ้นทะยานไปได้ต่อ ซึ่งระหว่างทางราคาย่อตัวลงมาเป็นเรื่องปกติของหุ้นตราบใดที่พื้นฐานการเติบโตไม่เปลี่ยนหรือสะดุดครั้งใหญ่
วัดตามราคาหุ้นแล้ว DELTA กลายเป็นหุ้นรอบ 50 ปีจะเกิดขึ้นในตลาดและปัญหาคือการจะเวทน้ำหนักหาหุ้นเทคฯ ที่แท้จริงเข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นไทยกลับหายากยิ่งกว่า หรือแม้ความหวังว่าหุ้นใหญ่อย่าง GULF ควบรวม INTUCH แล้วเสร็จขึ้นมาสูสีแต่มาร์เก็ตแคปรวมแล้วที่ 1.1 ล้านล้านบาทยังห่างไกลจากเบอร์ 1 ปัจจุบัน